ฮอนด้า All-New WR-V ใหม่ เอสยูวี 5 ที่นั่ง พรีเมียมสไตล์คนเมือง ค่าตัวเริ่ม 799,000 บาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด “Honda WR-V ใหม่” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกระแสความนิยมและการเติบโตของความต้องการในกลุ่มรถเอสยูวีในปัจจุบัน พร้อมเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและสร้างคุณค่าใหม่ให้ตลาดเอสยูวี อีกครั้ง
โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียม ทันสมัย ตามสไตล์ชีวิตยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ แรงได้สุดสนุกได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่นๆ* ที่พร้อมตอบทุกการใช้งานที่หลากหลายตอบรับทุกวิถีชีวิตยุคใหม่ ให้ได้มีวันพิเศษที่สร้างเองได้ทุกวัน พร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566** ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส “ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่” ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป และงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
Honda WR-V ใหม่ ตอบรับทุกวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ โดดเด่นไม่เหมือนใครกับการออกแบบที่สปอร์ต โฉบเฉี่ยว สไตล์เอสยูวี
ภายนอก
- กระจังหน้าโครเมียม
- มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า
- ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
- รุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน
- กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ภายใน
- แบบพับเบาะแถวหลัง 60:40 (ซ้ายหรือขวา)
- แบบพับเบาะแถวหลังทั้งหมด
วัสดุที่ใช้กับเบาะที่นั่งให้สัมผัสนุ่ม เสริมความพรีเมียมมากขึ้นด้วยภายในสีดำ
- วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน
- มือจับประตูด้านในสีเงิน
- เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน
- พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้
- ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นกับรุ่น RS
- วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง
- เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง
- พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้
- คิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS
ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว* อาทิ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย
- พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้าและด้านหลัง (รุ่น RS)
- แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS)
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
- กระจกไฟฟ้า 4 บานพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติด้านคนขับ
- ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า
- ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง
- ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
- ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง
- ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
- ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมัน 7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ* อาทิ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS)
- ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed)
- ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
สั่งการได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส กับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความสะดวกสบาย* เชื่อมต่อคุณและรถให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System), ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System), มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว, ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator), ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth), พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS), ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง, ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง, ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS) และ Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS)
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น RS ราคา 869,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 799,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความสปอร์ตและพรีเมียมในสไตล์รถ SUV อีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Sporty & Premium” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,500 บาท ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 1,300 บาท ฟิล์มสะท้อนแสงข้างประตู ราคา 1,250 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส ราคา 600 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
- Modulo Sport Package ราคา 14,990 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง
มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**
Honda WR-V รุ่น RS
ผู้ที่สนใจสามารถมาสัมผัส ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th/wrv ลูกค้าสามารถทดลองขับ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับทาง www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 31 มีนาคม 2566 จะได้รับฟรีบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 200 บาท**
หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
– สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 22.30-23.00 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV