ZEEKR 009 เสริมทัพรุ่น Standard ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Luxury EV MPV

ZEEKR Thailand ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาด Luxury EV MPV ด้วยการเปิดตัว ZEEKR 009 รุ่น Standard (7 ที่นั่ง มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า) รุ่นล่าสุด มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถหรูของไทยภายใต้แนวคิด “The New Standard of Premium Mobility MPV” ที่หลอมรวมงานดีไซน์หรูหราเหนือระดับ ฟังก์ชันความสะดวกสบายครบครัน มาตรฐานความปลอดภัยสูง และสมรรถนะเหนือชั้นที่วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 712 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ
ปัจจุบัน ZEEKR Thailand ส่งมอบรถทั้งหมดรวมแล้วกว่า 3,000 คัน ทั่วประเทศ ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อแบรนด์จากกลุ่มลูกค้าได้อย่างงดงาม ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ทางแบรนด์มุ่งมั่นนำเสนอสิ่งที่ดีแก่ผู้บริโภคชาวไทย ทั้งนี้จากที่ได้มีการรวบรวมข้อมูลด้านความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ พบว่าตลาดนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางแบรนด์จึงได้มีการเปิดตัว ZEEKR 009 6-Seater Luxury MPV รถเอ็มพีวีพลังงานไฟฟ้าหรู แบบ 6 ที่นั่งสู่ตลาดเมืองไทยช่วงเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา นับเป็นการเขย่าวงการ Luxury MPV ที่สร้างสีสันและกระแสการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เจ้าของธุรกิจ หรือผู้บริหารระดับสูงที่ชื่นชอบในยนตรกรรมอีวีระดับลักชูรีที่มาตรฐานความปลอดภัยสูง พร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่สุดล้ำ และลักชูรีดีไซน์ที่บ่งบอกตัวตนและสถานะได้ชัดเจน
ZEEKR 009 ตกแต่งห้องโดยสารหรูหราระดับเฟิร์สคลาส ให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุดทุกที่นั่ง ด้วยเบาะแถว 2 แบบ Sofaro First Class Airline Seats พร้อมโหมดการปรับแบบ Eames Lounge Chair Mode ที่สามารถปรับเอนนอนได้เพียงปุ่มเดียว และโต๊ะแบบพับเก็บได้ เบาะนั่งบุด้วยหนัง Soft Nappa แบบนุ่มสบาย เพิ่มเติมด้วยระบบนวดไฟฟ้าสำหรับเบาะนั่งแถวหนึ่ง และเบาะนั่งแถวสอง ตัวรถถูกติดตั้งหน้าจอ OLED แบบสัมผัสขนาด 15.05 นิ้ว และหน้าจอ AR HUD ขนาด 35.95 นิ้ว พร้อมหน้าจอเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลังแบบสัมผัส OLED ขนาด 17 นิ้ว เสริมประสิทธิภาพด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 จำนวน 2 ชุด รองรับคำสั่งได้ 60 ล้านครั้งต่อวินาที ระบบไฟตกแต่ง Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทาง YAMAHA พร้อมลำโพง 30 ตัว ทั้งนี้ ในด้านสมรรถนะที่เหนือชั้น ZEEKR 009 รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 603 แรงม้า (450 kW) แรงบิดสูงสุด 693 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 116 kWh ระยะทางขับขี่สูงสุด 686 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนระบบช่วงล่างของ ZEEKR 009 เป็นแบบถุงลมไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบกันสะเทือน CCD Electromagnetic Vibration Reduction System ช่วยลดแรงสะเทือนเข้ามายังห้องโดยสาร ขณะที่โครงสร้างด้านท้าย ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียวที่มีความแข็งแรงสูงพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน
ต่อมา ZEEKR 009 รุ่น 7 ที่นั่ง ได้เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิดเดียวกัน “Every Journey Shines, Every Seat Matters” นำเสนอทางเลือกใหม่สำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและเหนือระดับ โดยยกระดับมาตรฐานยนตรกรรมหรูสำหรับครอบครัว ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ผสานนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ากับความหรูหรา ทำให้ ZEEKR 009 ไม่ใช่เพียงแค่พาหนะสำหรับการเดินทาง แต่เป็นนิยามใหม่ของความพรีเมียมที่มอบทั้งสมรรถนะเหนือชั้น ห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาส และวัสดุคุณภาพสูงที่สะท้อนถึงความประณีตในทุกรายละเอียด และยังคงไว้ซึ่งฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์อย่างครบครัน
ตลอดระยะเวลาร่วมหนึ่งปีที่ ZEEKR 009 เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ทางแบรนด์รับฟังเสียงตอบรับของลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อการเข้าถึงความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปิดตัว ZEEKR 009 รุ่น Standard
7–Seater The Premium Mobility MPV ในวันนี้ นับเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับตลาดรถเอ็มพีวีสุดหรูในตลาดประเทศไทยที่มอบระยะทางขับขี่ไกลกว่าเดิมถึง 712 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) และมีการดึงเอาจุดเด่นจาก ZEEKR 009 ทั้ง 2 รุ่น มาไว้ด้วยกันอย่างครบครัน ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ต้องการเดินทางที่มีระยะไกลเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยรถรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางและพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพียงพอ เหมาะสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อนขนาดใหญ่ ลูกค้าองค์กร กลุ่มการบริการ หรือการเดินทางที่มีผู้โดยสารและสัมภาระจำนวนมาก หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยว หรือต้องการเดินทางระยะไกลในขณะที่ยังได้รับความสะดวกสบาย
ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น
Luxury Design
การตกแต่งภายในที่มาพร้อมกับเบาะ NAPPA ที่นุ่มสบาย มีโหมดการปรับที่นั่งแบบ Eames Lounge Chair Mode ที่สามารถปรับที่นั่งแบบเอนนอนอัตโนมัติเพื่อการผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เสริมด้วย
Dual Glass Roofs ขนาดใหญ่พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ช่วยปกป้องแสงแดดยามกลางวัน และสามารถเปิดดูดาวยามค่ำคืน
Intelligent Technology
ความอัจฉริยะของภายในตัวรถที่มาพร้อมกับจอแสดงผล 5 ส่วน ทั้ง หน้าจอมาตรวัดแบบ Full HD ขนาด
10.25 นิ้ว หน้าจอกลาง Touch Screen ขนาด 15.05 นิ้ว แบบ OLED หน้าจอเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาดใหญ่ถึง 17 นิ้ว หน้าจอ AR HUD ที่มีขนาดใหญ่ถึง 35.95 นิ้ว และพิเศษยิ่งขึ้นกับหน้าจอ Smart Door Panel Screens ที่สามารถปรับตั้งค่า พร้อมระบบควบคุมด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon จำนวน 2 ชุด เพิ่มสุนทรียภาพการเดินทางด้วยลำโพงจาก YAMAHA 30 จุด
Next Level of Performance
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่ให้กำลังสูงถึง 335 แรงม้า ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 116 kWh และช่วงล่างแบบ
High Performance Air Suspension Package หรือช่วงล่างแบบถุงลมประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบกันสะเทือน CCD Electromagnetic Vibration Reduction System ช่วยลดแรงกระแทกที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารเพื่อให้ทุกการเดินทางนุ่มนวล และผ่อนคลาย
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 22.30-23.00 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
ทางยูทูป www.youtube.com/AutoLikeTV
และ TIKTOK www.tiktok.com/@autoliketv