ส่องกล้อง “ออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2025” สำรวจเทรนด์ตลาดรถยนต์ในจีน..ความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป!

ถ้าอยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ..ถ้าอยากรู้จักรถยนต์แบรนด์จีน ก็จำเป็นต้องส่องกล้องเล็งไปถึงเมืองจีน! ว่าแล้วทีมงาน AutolikeTV ก็เปิดฉากส่อง “งานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2025” กันแบบที่ไม่คิดมาก่อนว่างานจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ เพราะแค่พื้นที่จัดงานก็ปาเข้าไปถึง 360,000 ตารางเมตร (งานมอเตอร์โชว์บ้านเรามีขนาดพื้นที่จัดงานประมาณ 76,000 ตารางเมตร) มีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าร่วมงานอีกกว่า 1,000 ราย มีฮอลล์จัดงานทั้งหมด 12 ฮอลล์ พูดง่ายๆ ว่าใหญ่กว่ามอเตอร์โชว์ถึง 5 เท่า! เชื่อแล้วว่างานนี้ใหญ่จริงๆ
งานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคม 2025 ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ (NECC) ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งผู้เข้าชมและผู้แสดงสินค้าในทุกครั้งที่จัดงาน ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ครั้งนี้เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 21 โดยมีการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สะท้อนถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคดิจิทัล รวมถึงเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับแบรนด์รถยนต์จีนที่ทำตลาดในไทย ต่างโชว์ต้นแบบ และเทคโนโลยี รวมทั้งฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภค ยกเว้นแบรนด์ Neta เท่านั้น ที่กำลังมีปัญหาในเรื่องบริหารกิจการภายในกันอยู่ที่ไม่ได้มาร่วมออกบูธในงานนี้ ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น BYD ซึ่งมีแบรนด์ลูกอีกหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Denza, FANGCHENGBAO, Yangwang มีการแชร์เทคโนโลยีนำมาใช้ระหว่างเครือบริษัทร่วมกัน เช่นเดียวกับฝั่งของ SAIC อีกค่ายใหญ่ที่มีแบรนด์ดังอย่าง MG, IM, Maxus, Roewe, Baojun, Wuling นั่นทำให้พอมองเห็นว่า แม้การออกแบบรถยนต์จีนจะมีความแตกต่างกัน (บางรุ่นดูเหมือนหรือคล้ายกันมากเช่นกัน) แต่เรื่องของขุมพลัง ระบบเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัย ร่วมถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการช่วยเหลือในการขับขี่นั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย
โดยในงานนี้มีการเปิดตัวรถใหม่ถึง 97 รุ่น! ใช่แล้ว 97 รุ่น มีแบรนด์ที่ไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยรู้จักอีกมากมาย รวมถึงรถพลังงานใหม่ (NEVs) จากแบรนด์จีนชั้นนำ เช่น BYD, Nio, XPeng, Zeekr และ Huawei ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการออกแบบที่ล้ำสมัย เป็นงานโชว์รถที่ต่างค่ายต่างนำของดีของเด่นมาอวดสายตาชาวโลกกันอย่างเต็มที่
ยกตัวอย่าง BYD แค่แบรนด์เดียว ก็ใช้เวลาทั้งวันกันแล้ว เพราะแบ่งพื้นที่จัดแสดงแบ่งออกเป็น 4 แบรนด์หลัก พร้อมกับมีการจัดแสดงแบรนด์ย่อย คือ Dynasty & Ocean Series, Fangchengbao (Formula Leopard), DENZA และ YANGWANG มีรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีหลัก รวมถึงไฮไลท์อื่นๆ
รถยนต์รุ่นใหม่ที่นำมาจัดแสดง เช่น YANGWANG รถยนต์ SUV ขนาด full-size รุ่นที่สองในกลุ่ม U8 ชื่อรุ่น U8L, DENZA เปิดตัวรถยนต์ Sedan ระดับเรือธงครั้งแรกของโลกในชื่อ DENZA Z, Fangchengbao เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ BAO 3 (Titanium 3), Ocean Series เปิดตัว SEAL 06 Touring และ SEAL 06 EV, Dynasty Series เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่ชื่อ Dynasty-D
ส่วนเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงยังคงเป็นผู้นำของการปฏิวัติวงการยานยนต์พลังงานใหม่ ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมากมายรวมถึง e-Platform 3.0 (Super e Platform) โครงสร้างรถยนต์ e-Platform 3.0 พัฒนาขึ้นโดยมีจุดแข็ง 4 ด้าน ทั้งความปลอดภัยจากการผสาน Blade Battery เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวถัง, ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นจากการรวมชิ้นส่วนและขุมพลังไฟฟ้าเข้าเป็นหนึ่งเดียวแบบ 8 in 1, ความอัฉริยะด้วยระบบควบคุมส่วนกลางที่สามารถ upgrade ระบบอัตโนมัติด้วยตัวเอง และการจัดวางตัวถังให้มีระยะฐานล้อยาวเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร รวมถึงมีความสูงต่ำช่วยให้ลู่ลมมากขึ้น
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ DiPilot Intelligent Driving System พร้อมเทคโนโลยี God’s Eye God’s Eye เอกสิทธิ์ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงของ BYD ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ BYD ทุกรุ่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก ประกอบด้วย God’s Eye C, God’s Eye B และ God’s Eye A โดยระบบทำงานร่วมกับเซนเซอร์ และกล้องหลายชนิด ทั้งยังมีชิพประมวลผลขั้นสูง เพื่อการทำงานที่แม่นยำสูงสุด
เทคโนโลยีชาร์จด่วนแบบ Megawatt Fast Charging Technology BYD พัฒนา Blade Battery ใหม่ให้รองรับการถ่ายโอนประจุได้ไวมากขึ้น และยังมีแรงเสียดทานภายในต่ำลง ส่งผลให้ชาร์จได้ไวขึ้น โดยรองรับกำลังไฟสูงสุด 1,000 โวลต์ พร้อมทั้งรองรับกระแสไฟจาการชาร์จสูงสุด 1,000 แอมป์ และรองรับกำลังไฟจากการชาร์จสูงสุด 1,000 กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในโลก และเกิดการบัญญัติกำลังไฟในหน่วย 1 เมกะวัตต์ (MW) นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่ใช้หน่วยนี้
ประหลาดใจกับ Lingyuan – นวัตกรรมการติดตั้งโดรนในรถยนต์ BYD ติดตั้งโดรนในรถยนต์ พร้อมแท่นปล่อยติดตั้งอยู่บนหลังคา โดรนของ BYD มีคุณภาพกล้องระดับ 4K และสามารถบินออกจากรถยนต์ได้ในขณะที่ขับขี่อยู่ ด้วยความเร็วไม่เกิน 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งยังบินกลับมาลงจอดโดยอัตโนมัติในรัศมี 2 กิโลเมตร และบินตามรถยนต์ด้วยความเร็วสูงสุด 54 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับการชาร์จไฟ ใช้เวลาในการชาร์จไฟ 20 – 80% ภายในเวลา 30 นาที ส่วนการควบคุมทำได้ ทั้งผ่านหน้าจอสัมผัสในรถยนต์โดยตรง หรือแอพ Ling Yuan ในมือถือ ที่ประหลาดใจกับแนวคิด และมีคำถามว่า ทำไมต้องติดโดรนไว้กับรถ แล้วจะได้ใช้จริงๆ เหรอ ทำไมไม่จอดรถแล้วปล่อยโดรน แล้วขับไปบังคับโดรนไปก็ได้นี่ แบบนี้เป็นคำถามแบบคนไทย แต่พอเป็นคนจีน เค้าจะรู้สึกว่านี่เป็น “ของ” ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ถ้ารถราคาใกล้เคียงกัน แต่มีชุดปล่อยโดรนติดตั้งมากับตัวรถถือว่ามีออปชั่นที่มากกว่า แบบนี้ลูกค้าจีนชอบ
DiSus-Z (Yunnian-Z) ระบบควบคุมการตัวถังอัจฉริยะ ครั้งแรกของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่ติดตั้งเทคโนโลยี้นี้ในรถยนต์ที่ออกจำหน่ายจริง โดย BYD พัฒนาขึ้นเพื่อยานยนต์ที่ขับเคลื่อน ด้วยพลังงานใหม่โดยเฉพาะ เพื่อความคล่องแคล่ว ความปลอดภัย และความมั่นใจ ในทุกสภาวะการขับขี่ ด้วยการลดการสะเทือนของตัวถังขณะเข้าโค้ง เร่งความเร็ว และเบรกกระทันหัน
DM 5.0 เทคโนโลยี Dual Mode (PHEV) เจนเนอเรชั่นที่ 5 เทคโนโลยี PHEV ที่ผสานการทำงานของมอเตอร์สมรรถนะสูง และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยใช้เครื่องยนต์เป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน ซึ่งปรับเปลี่ยนการทำงานโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่แบตเตอรี่มีพลังงานเต็มแบต ระบบจะขับเคลื่อนเหมือน EV และเปลี่ยนเป็นรถยนต์ Hybrid ที่มีอัตราสิ้นเปลืองชื้อเพลิงต่ำมาก ในเวลาที่มีพลังงานในแบตเตอรี่เหลือน้อย
e⁴ Platform งานวิศวกรรมยานยนต์ที่จะปฏิวัติสมรรถนะและความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้า EV เทคโนโลยีติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่ทำงานแยกกันอย่างอิสระในแต่ละล้อ ส่งผลให้กระจายแรงบิดได้อย่างแม่นยำ และยังมีความสามารถพิเศษอย่างการบังคับเลี้ยว 4 ล้อในที่แคบ รวมถึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นคง ภายใต้สภาวะการขับขี่ทุกรูปแบบ
e³ Platform งานวิศวกรรมยานยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต เทคโนโลยีติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว เข้าด้วยกัน สำหรับรถยนต์ PHEV และ EV โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน และบังคับเลี้ยวล้อหลังอย่างอิสระ ผสานการทำงานอย่างไร้ที่ติกับเทคโนโลยี DM 5.0 ในรถยนต์ PHEV และ e-Platform 3.0 ในรถยนต์ไฟฟ้า
นี่แค่ BYD แบรนด์เดียวนะ ซึ่งถ้าจะเดินให้ครบทุกฮอลล์ คงต้องใช้เวลากันจนถึงวันสุดท้ายของการจัดงานกันอย่างแน่นอน!
ทีนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ของคนจีนที่มีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนถึงความต้องการและแนวโน้มของตลาดในประเทศจีน สรุปใจความได้ว่า
1. รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานใหม่
- ความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้า: คนจีนให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เนื่องจากการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การให้สิทธิพิเศษทางภาษี การอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อ และการขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟฟ้า
- แบรนด์จีนกำลังเติบโต: แบรนด์จีนอย่าง BYD, Nio, XPeng, และ Li Autoได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากความคุ้มค่าในด้านราคาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบขับขี่อัจฉริยะ และ การเชื่อมต่อดิจิทัล
2. เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อดิจิทัล
- เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญ: คนจีนมักเลือกซื้อรถที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เช่นระบบขับขี่อัจฉริยะ (ADAS), การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน, และการใช้งานผ่านระบบ AI ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในเทคโนโลยีสูงสุด
- ประสบการณ์การขับขี่: หลายคนเลือกที่ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เช่นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ, ระบบช่วยจอดและ อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
3. รถยนต์ที่มีดีไซน์ทันสมัยและหรูหรา
- การออกแบบที่สวยงามและหรูหรา: คนจีนมักให้ความสำคัญกับการออกแบบภายนอกและภายในที่มีความสวยงามและทันสมัย พร้อมกับคุณสมบัติที่สะดวกสบาย เช่นเบาะหนังและ วัสดุตกแต่งภายในหรูหรา
- ความหรูหรา: ตลาดรถยนต์หรูในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแบรนด์หรู เช่น Mercedes-Benz, BMW, และ Audi ยังได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง
4. ความคุ้มค่าและราคาที่เหมาะสม
- ความคุ้มค่าทางราคา: การเลือกซื้อรถในจีนมักจะขึ้นอยู่กับราคาเป็นปัจจัยสำคัญ รถที่มีราคาไม่แพงแต่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงในราคาที่เหมาะสม
- ตัวเลือกหลายรุ่น: คนจีนมักจะพิจารณาเลือกซื้อจากหลายๆ รุ่นและหลายแบรนด์ โดยจะเปรียบเทียบระหว่างราคากับเทคโนโลยีที่ได้รับ และบางคนก็ยังเลือกจากโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ ที่มีการเสนอจากตัวแทนจำหน่าย
5. ความนิยมใน SUV และ Crossover
- SUV และ Crossover: ตลาด SUV และ Crossover เป็นที่นิยมมากในจีน เนื่องจากมีความสะดวกสบายในทุกสภาพการใช้งานและยังตอบโจทย์การใช้งานครอบครัวและการเดินทางระยะไกล
- รุ่นที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง: คนจีนมักเลือกซื้อรถที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวางและสามารถรองรับการเดินทางหลายคน อย่างรถ SUV 7 ที่นั่ง หรือ รถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่
6. การเน้นที่บริการหลังการขาย
- บริการหลังการขาย: บริการหลังการขาย เช่น การรับประกันที่ยาวนานและการบริการที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งที่คนจีนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่การชาร์จและซ่อมบำรุงมักเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้นกว่าในอดีต
โดยรวมแล้ว คนจีนมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าและรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสามารถช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัยและการสนับสนุนจากรัฐบาลในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์พลังงานใหม่
นอกจากนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีน ยังนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่นขายของยอดนิยม แต่สำหรับรถยนต์ การทดลองขับยังคงเป็นเรื่องที่ต้องลองก่อนซื้อเสมอ และมีอีก 2 เรื่องที่น่าสนใจ คือ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะติดตามการรีวิวจาก Influencer ด้านรถยนต์ ซึ่งมีความเชื่อมั่นกับการรีวิวค่อนข้างมาก และเรื่องสุดท้ายที่มันเกิดขึ้นแล้ว คือ ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ หรือ Brand loyalty ลดลงไปมาก คนจีนจำนวนมาก รวมทั้งคนเจเนอเรชั่นใหม่ ไม่สนใจแบรนด์รถยนต์อีกต่อไป แต่จะสนใจเพียงแบรนด์ที่มีรุ่นรถที่ดีกว่า ตอบโจทย์มากกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า และราคาน่าสนใจมากกว่าเท่านั้น
โดยสรุปแล้ว งานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2025 ยังคงเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนถึงการพัฒนาและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน โดยเฉพาะในด้านรถยนต์พลังงานใหม่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง การตอบรับจากผู้เข้าชมและผู้แสดงสินค้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก และมีการแข่งขันทั้งในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งจากการซื้อและจากการพัฒนาขึ้นเองที่เกิดขึ้นในทุกระดับ จึงเห็นว่ามีบริษัทที่เป็น Start Up เกิดขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว..แบรนด์รถยนต์จำเป็นต้องเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด เพื่อพัฒนารถยนต์ให้ตอบโจทย์ด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าการเดินทางไปจีนเพื่อดูงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2025 เป็นอะไรที่ทำให้เข้าใจที่มาที่ไปของรถยนต์แบรนด์จีนได้มากกว่าเดิมเยอะเลยจริงๆ
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 22.30-23.00 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
ทางยูทูป www.youtube.com/AutoLikeTV
และ TIKTOK www.tiktok.com/@autoliketv