Autoliketv

Top Menu

  • Home
  • Contact Us

Main Menu

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • Home
  • Contact Us

logo

Header Banner

Autoliketv

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอีซูซุ มอบเงินช่วยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รวม 1 ล้านบาท

  • บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive รหัสแรงรุ่นใหม่ประกอบไทย เตรียมเปิดจองออนไลน์ 3 มีนาคมนี้

  • เกรท วอลล์ แจกจริง บัตรกำนัลซื้อรถมูลค่า 1 ล้านบาท แก่ผู้โชคดี GWM SAWASDEE THAILAND

  • ALL-NEW MAZDA BT-50 ขายดี เริ่มส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วประเทศแล้ว

  • อาวดี้ ประเทศไทย คว้าสิทธิ์จำหน่าย “ดูคาติ” ในไทยอย่างเป็นทางการ

Autolike New CarFeatured
Home›Autolike new model›Autolike New Car›เจาะสเปค The new Porsche Cayenne E-Hybrid

เจาะสเปค The new Porsche Cayenne E-Hybrid

By Article writer
September 13, 2018
Share:

เรียกได้ว่าเป็นรถเอสยูวีที่หล่อ สุดหรู ดูดี และใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุด (The new Porsche Cayenne E-Hybrid) เป็นผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร พร้อมนำพายนตรกรรมสปอร์ต SUV พุ่งทะยานอย่างไร้ขีดจำกัด ทันทีที่เหยียบคันเร่ง ด้วยศักยภาพของขุมพลังที่สืบทอดแนวทางการออกแบบจากรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche  918 Spyder) คาเยนน์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Cayenne plug-in hybrid) สามารถเร่งออกตัวจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.0 วินาทีเท่านั้น เร้าใจยิ่งกว่าด้วยความเร็วสูงสุดถึง 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด ใหม่ (The new Cayenne E-Hybrid) สามารถเดินทางได้ 44 กิโลเมตร และทำความเร็วได้ถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเมื่อวัดตาม มาตรฐาน New European Drive Cycle (NEDC) โดยขึ้นอยู่กับขนาดของยางรถยนต์ที่ติดตั้งอยู่ที่ 29.4 – 31.2 กิโลเมตร ต่อลิตร หรือ 3.4 – 3.2  ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9 – 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร นอกจากการเปิดตัว คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ปอร์เช่ยังได้เพิ่มเติม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบช่วยเหลือการขับขี่หลากหลายรายการให้แก่คาเยนน์ (Cayenne) ทุกรุ่น อาทิ หน้าจอ แสดงข้อมูล head-up display แบบใหม่ เบาะนวดไฟฟ้า และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 22 นิ้ว

พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder)

คาเยนน์ อี-ไฮบริด  (Cayenne E-Hybrid) คือ หนึ่งในผลงานอันเป็นตัวแทนที่แสดงออกถึงทิศทางการพัฒนายานพาหนะ พลังงานไฟฟ้าในอนาคตของปอร์เช่ ประจำการด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในสมรรถนะสูง ซึ่งผ่านการปรับแต่งจนมีกำลัง สูงสุดเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 7 แรงม้า (5 กิโลวัตต์) รวมเป็น 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) ประสิทธิภาพจากระบบขับเคลื่อน พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 43 เปอร์เซ็นต์ หรือ 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) ทั้ง 2 ขุมพลังผสานพละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แนวทางในการออกแบบระบบเสริมสมรรถนะที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสมลงตัว เพื่อให้มั่นใจว่ามอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงาน ได้อย่างเต็มศักยภาพเมื่ออยู่ภายใต้โปรแกรมการขับขี่ทุกรูปแบบของชุดแต่งสปอร์ตโครโน (Sport Chrono Package) ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นั่นหมายความว่าแรงบิดสูงสุดจะพร้อมตอบสนองต่อการบังคับควบคุมทุกครั้งที่สัมผัสคัน เร่ง ผู้ขับขี่สามารถสนุกสนานกับอัตราเร่งและแรงบิดมหาศาลในทุกรอบความเร็ว พร้อมรับมือกับสถานการณ์บนท้องถนน ที่ต้องเผชิญด้วยความมั่นใจ ทั้งหมดข้างต้นนำมาซึ่งเสถียรภาพการทรงตัวและประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมกำลังสำรอง ที่ล้นเหลือจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกเก็บสะสมเอาไว้ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทางโดยขึ้นอยู่กับโปรแกรมการขับขี่ที่เลือกใช้งานขณะนั้น โหมด Sport และ Sport Plus เน้นการดึงสมรรถนะตัวรถออกมาจนถึงขีดสุด พลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งหมดจะได้รับการนำมาใช้เพื่อสร้างอัตราเร่ง สำหรับโหมด Sport การชาร์จแบตเตอรี่จะเกิด ขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการเสริมพละกำลัง ในส่วนของโหมด Sport Plus แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็ว ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โหมดการขับขี่อื่นๆ นั้นเหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน เชื้อเพลิงสูงสุด

ชาร์จพลังงานผ่านระบบ Porsche Connect app และ Porsche Charging Service

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งในปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid) ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อเพิ่ม ความจุในการเก็บสะสมพลังงาน เสริมขีดความสามารถทั้งในแง่ของพิสัยระยะการเดินทางและพละกำลังสำรองยามที่ต้องการอัตราเร่ง เมื่อเปรียบเทียบกับ คาเยนน์ (Cayenne) รุ่นก่อนหน้า พบว่าความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นจาก 10.8 เป็น 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แบตเตอรี่ดังกล่าวผ่านการระบายความร้อนด้วยระบบ fluid-cooled ติดตั้งลงบริเวณพื้นตัวถังด้านท้ายของรถอย่างหนาแน่น ประกอบด้วยโมดูลพลังงาน 8 ชุด ภายใน แต่ละโมดูล คือเซลล์ prismatic lithium ion จำนวน 13 เซลล์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุภายในระยะเวลา 7.8 ชั่วโมง ด้วยไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาดกระแส 10 แอมป์ ในกรณีที่ใช้อุปกรณ์พิเศษ on-board charger 7.2 กิโลวัตต์ ด้วยไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาดกระแส 32 แอมป์ แทนที่ระบบชาร์จมาตรฐานแบบ 3.6 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จพลังงานจนเต็มความจุภายในระยะเวลาเพียง 2.3 ชั่วโมงเท่านั้น

โดยกระบวนการชาร์จพลังงานสามารถควบคุมและตรวจสอบสภาวะการทำงานผ่านระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) พร้อมสั่งการระบบปรับอากาศอย่างสะดวกสบายจาก Porsche Connect app ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอุณหภูมิหรือลดอุณหภูมิในขณะปิดสวิทช์กุญแจ ทั้งหมดข้างต้นติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและ สามารถเลือกเชื่อมต่อด้วยโทรศัพท์มือถือได้ตามต้องการ นอกจากนี้ระบบ Porsche Connect ยังรองรับการค้นหาและ คัดกรองสถานีชาร์จพลังงาน รวมทั้งบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในจุดหมายของระบบนำทางผ่านดาวเทียม ระบบ เครือข่ายการให้บริการ Porsche Charging Service ใหม่ล่าสุด เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เข้าถึง สถานีบริการชาร์จพลังงาน สาธารณะได้โดยอิสระ ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการจะถูกส่งตรงมายังผู้ใช้งานผ่าน Porsche ID account โดยไม่จำเป็นต้อง ลงทะเบียนใช้งานเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการรายอื่นแต่อย่างใด

ระบบขับเคลื่อนไฮบริด และเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Tiptronic S ใหม่ล่าสุด

ปอร์เช่ ออกแบบและสร้างสรรค์ระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังของ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ใหม่ทั้งหมด ชุดขับเคลื่อนไฮบริด ประกอบด้วยเซลล์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมชุดคลัทช์อิสระ electromechanical แตกต่างจากระบบ electro-hydraulic และอุปกรณ์ spindle actuator ในรุ่นก่อนหน้าให้อัตรา การตอบสนองที่รวดเร็วและฉับไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของระบบส่งกำลังประจำการด้วยเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่สำหรับปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) โดยเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ ชุดนี้ไม่เพียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวล แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการกระตุกที่เกิดขึ้น ขณะเปลี่ยนจังหวะ

หนึบแน่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all–wheel drive พร้อมสมรรถนะการลากจูงสูงสุดกว่า 3.5 ตัน

ด้วยการทำงานของระบบ Porsche Traction Management (PTM) ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ของ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ได้รับการควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอุปกรณ์ map-controlled multiplate clutch โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนอย่างเหมาะสม การทำงานของระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถบังคับควบคุมรถยนต์ได้ทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่สไตล์สปอร์ตความเร็วสูงที่ต้องการเสถียรภาพ ในการทรงตัว หรือแม้แต่ในยามบุกตะลุยไปบนเส้นทางทุรกันดารสไตล์ offroad ต้องยกประโยชน์ให้ระบบรองรับและช่วง ล่างของ คาเยนน์ ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถสปอร์ตพันธุ์แท้ เฉกเช่นกับที่เคยเป็นมาใน ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) ทุกเจเนอเรชั่น ระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้สามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอีกหลากหลายรายการ อาทิ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบ roll stabilisation และระบบลากจูงรถต่อพ่วงที่สามารถ รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน

จัดเต็มอุปกรณ์พิเศษ: หน้าจอแสดงผล head–up display และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ขนาด 22 นิ้ว

พร้อมกับการเปิดตัว คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid) ปอร์เช่ได้บรรจงเพิ่มเติมระบบช่วยเหลือ การขับขี่และนวัตกรรมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำยุคมากมายหลายรายการ สำหรับ คาเยนน์ (Cayenne) ทุกรุ่น นับเป็นครั้งแรกของปอร์เช่สำหรับการติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ head-up display ทำงานด้วยการฉายภาพข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของตัวรถไปยังระดับสายตาของผู้ขับขี่โดยตรงในลักษณะของหน้าจอสี ในส่วนของอุปกรณ์ พิเศษอื่นๆ ที่ได้รับการเพิ่มเติมลงใน คาเยนน์ (Cayenne) เป็นครั้งแรก ได้แก่ ระบบดิจิทัลช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Porsche InnoDrive พร้อมระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบนวดไฟฟ้า massage seats ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า heated windscreen ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสารแยกตำแหน่ง อิสระควบคุมด้วยรีโมท และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ขนาด 22 นิ้ว

สำหรับปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid) มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,500,000 บาท จำหน่ายโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย รถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เท่านั้น

 

 

ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.00 น.

หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com 

ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv

และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV

Facebook Comments
TagsE-HybridPorsche CayennePorsche Cayenne E-HybridThe new Porsche Cayenne E-Hybrid
Previous Article

เผยโฉมครั้งแรกในไทยกับ The new Porsche Cayenne E-Hybrid ค่าตัว ...

Next Article

โตโยต้า บริษัทรถยนต์รายเดียวรับรางวัล สุดยอดนายจ้างดีเด่น 3 ปีซ้อน

0
Shares
  • 0
  • 0

Related articles More from author

  • Autolike Event

    เผยโฉมครั้งแรกในไทยกับ The new Porsche Cayenne E-Hybrid ค่าตัว 7.5 ล้าน

    September 13, 2018
    By Article writer
  • Autolike EventFeatured

    รถไฟฟ้า FOMM One เปิดตัวพร้อมให้ทดลองขับอย่างเป็นทางการ

    November 2, 2018
    By Article writer
  • Autolike New CarFeatured

    Audi A4 Avant รุ่นปรับโฉมใหม่ เริ่มต้น 3.399 ล้าน พร้อมส่งมอบทันที

    August 18, 2020
    By Article writer
  • Autolike OntourFeatured

    3 คำถาม 3 คำตอบกับ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์” ครอสโอเวอร์เบอร์ใหม่ จากชุมพรสู่สุราษฎร์ธานี

    August 11, 2018
    By saknarong ch
  • Autolike EventFeatured

    มิตซูบิชิ ฉลองการผลิต “Outlander PHEV” คันแรกในไทย

    December 22, 2020
    By Article writer
  • Autolike New CarFeatured

    Mercedes-Benz G 350 d Sport สายลุยตัวจริง ค่าตัวเบาๆ 9.39 ล้านบาท

    June 24, 2020
    By Article writer

Find us on Facebook

logo

“ออโต้ไลค์ทีวี” เว็บไซต์ยานยนต์ สำหรับคนนำสมัย คอนเซ็ปต์ “แค่คลิกไลค์ ใจคุณก็รักรถ”

About us

  • 63 ซอยลาดปลาเค้า 33 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
  • 02-077-7440
  • autoliketv@gmail.com
https://www.youtube.com/watch?v=SSqAWgla-3o
https://www.youtube.com/watch?v=vORAW8_5fbY
https://www.youtube.com/watch?v=Vc9BustjqLA
https://www.youtube.com/watch?v=hEmirJo7aJs
© Copyright AUTOLIKETV TEAM. All rights reserved.