Autoliketv

Top Menu

  • Home
  • Contact Us

Main Menu

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • Home
  • Contact Us

logo

Header Banner

Autoliketv

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอีซูซุ มอบเงินช่วยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รวม 1 ล้านบาท

  • บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive รหัสแรงรุ่นใหม่ประกอบไทย เตรียมเปิดจองออนไลน์ 3 มีนาคมนี้

  • เกรท วอลล์ แจกจริง บัตรกำนัลซื้อรถมูลค่า 1 ล้านบาท แก่ผู้โชคดี GWM SAWASDEE THAILAND

  • ALL-NEW MAZDA BT-50 ขายดี เริ่มส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วประเทศแล้ว

  • อาวดี้ ประเทศไทย คว้าสิทธิ์จำหน่าย “ดูคาติ” ในไทยอย่างเป็นทางการ

Autolike New CarFeatured
Home›Autolike new model›Autolike New Car›เจาะสเปค ALL NEW MAZDA CX-30 ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่โดดเด่นในทุกมิติ

เจาะสเปค ALL NEW MAZDA CX-30 ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่โดดเด่นในทุกมิติ

By Article writer
March 6, 2020
Share:

สำหรับการเปิดตัวรถใหม่ในช่วงนี้ต้องบันทึกเอาไว้เลยว่า ด้วยความร้ายกาจของ โควิค-19 ทำให้หลายค่ายต้องปรับแผนกันน่าดู แต่ชีวิตยังต้องเดินไปข้างหน้า และในวันนี้มาสด้าเป็นอีกหนึ่งค่ายที่ได้รับผลกระทบ การเปิดตัวรถใหม่ของ CX-30 จึงยกเลิกการจัด แต่ข่าวสารและข้อมูลสำคัญของเจ้าคันนี้ AutolikeTV.com จัดข้อมูลให้แฟนๆ แบบแน่นปึ๊กกันไปเลย

Mazda CX-30: เปิดหลากมิติขยายทุกมุมมอง

มาสด้าต้องการให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความเพลิดเพลินที่หลากหลาย ด้วยการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ การออกแบบ Mazda CX-30 จึงช่วยกระตุ้นให้ทุกคนสามารถค้นหาสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันและได้ร่วมแบ่งปันกับคนที่รัก รถครอสโอเวอร์เอสยูวีใหม่นี้ เป็นรุ่นที่สองในรถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้าที่ให้คุณภาพดีเยี่ยมในทุกพื้นที่

นาโอฮิโตะ ซากะ ผู้จัดการโปรแกรม Mazda CX-30 เผยว่า ความปรารถนาของเราคือการมีส่วนช่วยให้ลูกค้าในทุกช่วงวัย สามารถเลือกรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้ เพื่อให้ชีวิตประจำวันของพวกเขามีชีวิตชีวา และช่วยให้พวกเขาสร้างความผูกพันกับคนที่รักได้ดียิ่งขึ้น เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ความต้องการก็เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็มีผลไปถึงการเลือกใช้รถยนต์ไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากครอบครัวขยายใหญ่ขึ้นและไลฟ์สไตล์ของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไป ดังนั้นการเลือกรถยนต์ที่เหมาะสมจึงถือเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราตั้งเป้าหมายในการพัฒนารถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลาย สามารถขยายมุมมองของผู้คน และช่วยเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันที่ธรรมดาให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ด้วยตนเอง

เรามุ่งมั่นที่จะเสนอคุณค่า 4 ประการของ CX-30 ได้แก่ รถยนต์จะต้องมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับคนขับทุกประเภทเพื่อให้สามารถขับไปในทุกที่ที่ต้องการได้โดยไม่ลังเล การออกแบบจะต้องสามารถมอบความสุขให้กับการได้ครอบครองสิ่งที่ตรงกับความรู้สึก ห้องโดยสารต้องกว้างขวางพอที่จะให้ผู้ขับขี่ได้แบ่งปันช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัวและเพื่อนๆ และท้ายที่สุด สมรรถนะของรถนั้นจะต้องยอดเยี่ยมเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารก็สามารถที่จะผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการขับขี่ไปตลอดเส้นทาง

เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ได้ออกแบบรถยนต์ให้มีขนาดที่สามารถขับได้บนทุกท้องถนนและสามารถจอดได้ในลานจอดรถทุกแห่ง และได้ออกแบบวงเลี้ยวที่ช่วยให้รถสามารถเลี้ยวได้ในวงแคบ ในขณะที่ยังคงรักษารูปลักษณ์ความเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่มีทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างไร้กังวลแม้ขับบนถนนที่แออัดในเมือง สามารถเข้าออกได้ง่าย และด้วยพื้นที่เก็บของด้านท้ายที่กว้าง จึงทำให้การเก็บกระเป๋าสัมภาระเป็นเรื่องง่ายเช่นกัน CX-30 มีขนาดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ ช่วยให้คุณวางอุปกรณ์ด้านหลัง และขึ้นลงรถได้อย่างง่ายดาย

ภายใต้แนวคิด KODO ดีไซน์ของมาสด้า ทำให้การออกแบบภายนอกนั้นดึงดูดสายตาผู้พบเห็น ในขณะที่รูปแบบอันทรงพลังและสง่างามจะทำให้คุณจะไม่เบื่อกับการมองส่วนโค้งเว้าของตัวรถ จุดเด่นของมุมมองด้านข้างคือการสะท้อนที่โดดเด่นไหลลื่นไปตามพื้นผิวในลักษณะคลื่น การสะท้อนในรูปแบบนี้จะดูสวยงามและช่วยให้เจ้าของรถรู้สึกสร้างสรรค์และคิดเชิงบวก

ภายในห้องโดยสาร มุ่งออกแบบให้เกิดคุณภาพสูงสุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เวลากับคนที่พวกเขารักได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารให้ความรู้สึกพรีเมียมและการออกแบบที่โอบล้อมผู้โดยสาร ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวางพอที่จะรองรับผู้ใหญ่สี่คนได้อย่างสบาย และเราได้รวมสิ่งต่างๆ ไว้เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้ผ่อนคลาย ห้องโดยสารที่เงียบสงบทำให้การสนทนามีอรรถรส และคุณภาพของระบบเสียงใหม่พร้อมการจัดวางลำโพงที่ได้รับการปรับแต่งชวนให้นึกถึงห้องสำหรับฟังเพลง เราหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับการใช้เวลากับคนที่คุณรักในพื้นที่อันแสนสบายนี้

สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงของ CX-30 สามารถมอบความสบายใจให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการขับขี่ ตำแหน่งการขับขี่ เบาะนั่ง ทัศนวิสัย และการใช้งานที่โดดเด่นพร้อมกับสมรรถนะอันทรงพลังที่มาจากโครงสร้างตัวถังใหม่ SKYACTIV-Vehicle Architecture และปรับให้เข้ากับการรับความรู้สึกของมนุษย์ รวมกันเพื่อมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ สร้างความมั่นใจและความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างรถยนต์และผู้ขับ ในการขับขี่ ระบบ i-Activsense ใหม่จะคอยช่วยเหลือผู้ขับขี่อยู่ตลอดเวลา ระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ SKYACTIV-G รุ่นล่าสุดที่สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างทันท่วงทีในทุกสถานการณ์การขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus ที่ช่วยสามารถสร้างความมั่นใจให้กับการขับขี่ในทุกสภาพท้องถนน ซึ่งคุณสมบัติที่ครบถ้วนเหล่านี้ จะสามารถมอบความอุ่นใจที่ทำให้ทุกคนได้ผ่อนคลายและได้รับสุนทรียภาพในการขับขี่ พร้อมกับกระตุ้นให้ผู้ขับรู้สึกอยากขับรถต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในด้านการออกแบบมาสด้า CX-30 เป็นมากกว่ารถรุ่นใหม่ในกลุ่มรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เป็นรถที่โดดเด่นในฐานะรถครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่ได้รับการกล่าวถึงในฐานะรถรุ่นที่สองของรถเจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า ด้วยแนวคิดการออกแบบของ KODO – Soul of Motion ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอันเป็นแนวคิดที่ฝังรากอยู่ในสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น CX-30 ได้รับการพัฒนาให้เป็นยนตรกรรมเสมือนงานศิลปะชิ้นเอก เพื่อให้ดึงดูดใจผู้พบเห็นมากที่สุด นักออกแบบและวิศวกรได้ทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อสร้างรถยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลายหลายสำหรับห้องโดยสารที่กว้าง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง และสัดส่วนที่สวยงามอย่างแท้จริง ผมมั่นใจว่าการออกแบบที่พริ้วไหวและการตกแต่งภายในที่ประณีตจะดึงดูดสายตาด้วยรูปแบบงานศิลปะที่สวยงาม

นอกจากนี้ ความปรารถนาของผมสำหรับความงามนี้ คือ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกสร้างสรรค์ของลูกค้า ให้คิดทำกิจกรรมสร้างสรรค์ในชีวิตมากขึ้น นอกเหนือจากการเป็นงานศิลปะที่ได้รับการชื่นชม CX-30 ยังช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนที่เลือกงานศิลปะมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

เรียว ยานากิซาวา หัวหน้าทีมออกแบบ Mazda CX-30 “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง: แนวคิดรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบ KODO design”

ตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2553 การออกแบบภายใต้แนวคิด KODO – Soul of Motion ของมาสด้าเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ในระดับโลก และมาสด้าได้ทำให้ปรัชญานี้ลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งขึ้นเพื่อยกระดับการออกแบบรถยนต์เป็นไปในระดับศิลปะชั้นสูง เป้าหมายสำหรับวิวัฒนาการของการออกแบบตามแนวคิด KODO นี้คือการแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ของความสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจและฝังอยู่ในสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เช่นเดียวกับรูปแบบแนวคิดของ Mazda Vision Coupe ที่เผยโฉมในปี 2560 ได้รวมเอาการออกแบบนี้ด้วยสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่ายและเฉียบคม รูปทรงของตัวถังอันหรูหราสร้างการเล่นแสงและการสะท้อนแสงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาเพื่อสร้างสไตล์ที่เป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา

CX-30 ได้รับการพัฒนาเพื่อสร้างการออกแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี บนฐานของแนวคิดการออกแบบ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” สัดส่วนของรถผสมผสานความแข็งแกร่งของเอสยูวีเข้ากับความงามอันพริ้วไหว โดดเด่นท่ามกลางรถคันอื่นในกลุ่ม พื้นผิวของตัวถังรถให้ความรู้สึกที่ประทับใจในทุกช่วงเวลา และห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัวนั้นถูกผสมผสานด้วยความรู้สึกสบายและบรรยากาศที่กว้างขวาง ทำให้ผู้โดยสารทุกคนเพลิดเพลินและผ่อนคลาย การออกแบบในทุกด้านช่วยเสริมบุคลิกที่น่าประทับใจของ CX-30 และกระตุ้นความรู้สึกของลูกค้าทุกครั้งที่เหลียวมองหรือสัมผัสรถ

การออกแบบภายนอก

ด้วยความ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” อันเป็นแนวคิดการออกแบบของ CX-30 ผสมผสานองค์ประกอบที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว: ความงามอย่างพริ้วไหวของรถคูเป้และความแข็งแกร่งของเอสยูวี ตัวถังส่วนล่างตกแต่งด้วยสีดำเพื่อสร้างสัดส่วนคูเป้ที่โฉบเฉี่ยว แต่ในขณะเดียวกัน การตกแต่งก็ยังให้ความรู้สึกมั่นคงและทรงพลังในแบบรถเอสยูวี

การสื่อสารการออกแบบ “หนักแน่นและพริ้วไหว”

รูปแบบของรถถูกกำหนดโดยภาษาการออกแบบใหม่ “หนักแน่นและพริ้วไหว” การออกแบบนี้ได้มาจากพู่กันที่ใช้เขียนตัวอักษรญี่ปุ่นและพัฒนาขึ้นเพื่อผสมผสานปัจจัยสำคัญสามประการของการออกแบบตามแนวคิด KODO ที่พัฒนาขึ้นมา อันได้แก่ Yohaku ความงดงามของพื้นที่ว่าง Sori เส้นโค้งที่สมดุล และ Utsuroi การเล่นแสงและเงา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Sori ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากเส้นโค้งของเส้นสายที่วิ่งจากล้อหน้าไปยังล้อหลังทำให้รู้สึกถึงความเร็วและความมีชีวิตชีวา  พื้นผิวของตัวถังสะท้อนเป็นรูปทรงตัวเอสที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของรถซึ่งเป็นไปตาม Utsuroi รูปลักษณ์ของตัวถังเหล่านี้ในที่สุดก็มารวมกันที่ด้านหลังและกระจายไป โดยเส้นที่เป็นเอกลักษณ์จางหายไปเมื่อพื้นผิวเคลื่อนที่ การออกแบบ CX-30 ได้ทั้งความงามของงานศิลปะและความรู้สึกอันทรงพลังของการเคลื่อนไหว

การออกแบบด้านหน้า

การออกแบบด้านหน้าบ่งบอกถึงบุคลิกที่โดดเด่นและสง่างาม ซิกเนเจอร์วิงที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้านั้นอยู่ในรูปแบบที่คมชัดและลึกกว่าเดิมซึ่งรวมเข้ากับรูปทรงที่มั่นคงของกันชนหน้า เพื่อให้ได้หน้ารถที่มีลักษณะพุ่งไปข้างหน้า ขนาดและรูปแบบของลวดลายสามเหลี่ยมของกระจังหน้าถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อแสดงถึงรูปแบบที่หลากหลายตามมุมมองและแสงที่ตกกระทบ

การออกแบบด้านท้ายรถ

ซุ้มล้อด้านหลังยื่นเด่นออกมาจากห้องโดยสาร รวมกับรูปทรงโค้งของประตูท้ายเพื่อสร้างภาพด้านหลังที่มีเสน่ห์และน่าดึงดูดใจ ด้วยความเหมือนรถสปอร์ตที่ดูกว้างและการเคลื่อนไหว ที่แสดงออกถึงความดึงดูดทางอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KODO ดีไซน์อย่างชัดเจน

การออกแบบโคมไฟ

โคมไฟหน้าและโคมไฟท้ายได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การออกแบบได้ผสมผสานความงามทางศิลปะเข้ากับรูปลักษณ์เชิงกลที่โดดเด่นและรูปทรงกระบอกอันประณีตของแสงรูปวงแหวนจะเห็นเด่นชัดในตอนกลางคืน

สัญญาณไฟเลี้ยว

หลังจากปรับแสงให้สว่างเต็มที่ในทันที ไฟเลี้ยวแอลอีดีที่พัฒนาขึ้นใหม่ของมาสด้าจะค่อยๆ หรี่ความสว่างลง จังหวะการกระพริบและความนวลที่ถ่ายทอดออกมาเป็นจังหวะนี้จะช่วยส่งเสริมเอกลักษณ์ความมีชีวิตชีวาในแบบฉบับของมาสด้า มาสด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่ตระหนักถึงเอกลักษณ์ของสัญญาณไฟเลี้ยวของรถประเภทนี้โดยใช้การควบคุมการหรี่แสง เพื่อสร้างความรู้สึกพึงพอใจของความเป็นหนึ่งเดียวของระบบโดยรวม สัญญาณไฟเลี้ยวในแผงหน้าปัดและเสียงการทำงานถูกตั้งค่าให้สอดคล้องกับจังหวะของสัญญาณเลี้ยว

การออกแบบล้ออัลลอยด์

CX-30 มีให้เลือกทั้งล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้ว และ 16 นิ้ว ซึ่งทั้งสองขนาดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง ใกล้กึ่งกลางล้อโดยมีก้านล้อที่ยื่นออกไปสู่ขอบล้ออย่างสง่างาม การออกแบบนี้สร้างภาพลักษณ์โดยรวมของการรองรับตัวรถได้เป็นอย่างดี ลักษณะการออกแบบเฉพาะสำหรับล้อขนาด 18 นิ้ว นั้นดึงดูดความสนใจด้วยก้านล้อที่ทำขึ้นเพื่อแสดงออกถึงการเคลื่อนไหวได้อย่างโดดเด่น และน็อตล้อทรงกระบอก สีล้อ Silver Metallic ถ่ายทอดความรู้สึกที่โดดเด่นถึงคุณภาพสูง ลักษณะการออกแบบก้านล้อสำหรับล้อขนาด 16 นิ้วนี้ ทำให้ล้อดูเหมือนมีขนาดใหญ่ขึ้น และการใช้สีล้อโทนเข้มแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ตราตรึงเมื่อผนวกเข้ากันกับยาง

สีตัวถังภายนอก

สีของตัวถังมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ Soul Red Crystal, Machine Gray และสี Poly Metal Gray ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับ Mazda3 พร้อมกับ Snowflake White Pearl, Jet Black, Deep Crystal Blue และ Sonic Silver

การออกแบบภายใน

การออกแบบห้องโดยสารของ CX-30 นั้นมาจากปรัชญาการออกแบบของมาสด้าที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางและจากสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยใช้ Ma หรือพื้นที่ว่าง การจัดวางพื้นฐานเป็นวงกลมรอบพื้นที่สองส่วนด้วยลักษณะที่แตกต่าง ได้แก่ บริเวณพื้นที่อบอุ่นสบายและกะทัดรัดสำหรับผู้ขับขี่ และบริเวณพื้นที่โล่งโปร่งสบายโดยรอบผู้โดยสารด้านหน้า สอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบโดยรวมของ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” การตกแต่งภายในของ CX-30 ทำให้ได้ทั้งความสง่างามและความสวยงาม ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับความทรงพลังและอเนกประสงค์ตามแนวคิดการออกแบบของรถเอสยูวี นอกจากนี้ ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุไปจนถึงความประณีตของการประกอบและการตกแต่ง เพื่อสร้างพื้นที่ภายในที่มีคุณภาพสูงสุดอย่างแท้จริง

การออกแบบบริเวณพื้นที่คนขับ

บริเวณที่นั่งคนขับนั้นมีความสมมาตรและมีศูนย์กลางอยู่ที่คนขับ มาตรวัดทั้งสามบนหน้าปัด และจอแสดงผลส่วนกลางทำมุมเอียงอย่างถูกต้องไปยังตำแหน่งการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับรถและควบคุมรถได้ง่าย

แผงคอนโซลหน้าแผ่กว้างและบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า

แผงคอนโซลหน้าแผ่กว้างทอดยาวจากแผงหน้าปัดไปจรดขอบประตูด้านผู้โดยสาร ทำให้เกิดส่วนโค้งอันสวยงามที่ทอดยาวในห้องโดยสาร สิ่งนี้สร้างบรรยากาศที่ปลอดโปร่งซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกของบริเวณคนขับ ในขณะเดียวกันก็สร้างความประทับใจของความโปร่งและสะดวกสบายที่ผ่อนคลาย วิธีการออกแบบที่โอบล้อมของที่นั่งด้านหน้าก็ยังเพิ่มความรู้สึกมั่นใจ การเย็บตามขอบของแผงคอนโซลหน้า และตกแต่งด้วยสีเงินโครเมียมก็ยังช่วยเพิ่มลักษณะของความมีคุณภาพของการตกแต่งภายในรถ

คอนโซลกลาง

คอนโซลกลางที่กว้างทำให้สามารถจัดวางตำแหน่งคันเกียร์ ที่วางแก้ว และปุ่มควบคุมอัจริยะ ให้ค่อนไปด้านหน้า ให้ “พื้นที่ควบคุม” ใกล้กับผู้ขับขี่เพื่อการใช้งานที่สะดวก ในขณะที่บริเวณที่พักหัวเข่ามีความโค้งเล็กน้อยและตำแหน่งที่พักแขนวางค่อนไปด้านหลังเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและแตกต่าง

แผงคันเกียร์

แผงคันเกียร์ใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปสองชั้นของมาสด้าที่ได้พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับ Mazda3 ใหม่ แสงที่กระทบกับแผงสีเทาเข้มของชั้นบน เผยให้เห็นลวดลายโลหะที่ฝังอยู่ในชั้นฐานด้านล่าง และการสะท้อนที่ปรากฏออกมานั้นจะเปลี่ยนไปเมื่อแสงเคลื่อนผ่าน เพื่อเน้นบรรยากาศของ CX-30 ที่ให้รายละเอียดและคุณลักษณะชั้นสูง

สีภายใน

มีการออกแบบโทนสีภายในที่โดดเด่นเพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตและความพึงพอใจ  สีภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มสอดคล้องกับรสนิยมที่ทันสมัยและภูมิฐาน

ภายในโทนสีน้ำตาลเข้ม

โทนสีน้ำตาลเข้มนั้นได้จากเบาะหนังสีดำที่มีรูเล็กๆ ส่วนสีน้ำตาลด้านในเพื่อเสริมบรรยากาศภายห้องโดยสารให้ดูดียิ่งขึ้น

ตามปรัชญาการพัฒนาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มาสด้ามีเป้าหมายที่จะทำให้ CX-30 มาพร้อมความสามารถรอบด้านที่เพิ่มขึ้นในฐานะครอสโอเวอร์เอสยูวี พื้นที่ภายในห้องโดยสารนี้ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสบายและผ่อนคลายแม้ขับขี่เป็นระยะทางไกลๆ ในขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระมีการปรับปรุงให้มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่นั้นมีการพัฒนาโดยการใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ที่ได้มาจากการวิจัยพัฒนาตำแหน่งการขับขี่และการสื่อสารระหว่างคนกับรถ (Human-Machine Interface, HMI) ส่วนต่างๆ ของพื้นที่ภายในได้รับการออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายยิ่งขึ้นและให้ประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่าแก่ลูกค้า

ขนาดมิติภายนอกและภายใน

ขนาดตัวถังที่ให้ความคล่องตัว

การควบคุมรถที่ง่ายและเหมาะสมกับครอสโอเวอร์เอสยูวีใหม่จากมาสด้า เป้าหมายในการออกแบบ CX-30 คือให้ได้ความยาวโดยรวมอยู่ที่ 4,400 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่า ผลที่ได้คือขนาดตัวถังที่ให้การควบคุมรถท่ามกลางการจราจรที่แออัดในเมืองเป็นเรื่องง่าย โดยฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับรถบนถนนที่แคบหรือเมื่อต้องจอดรถขนานกับฟุตบาท

ห้องโดยสารที่ให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้ใหญ่สี่คน

ระยะห่างระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าที่มากถึง 740 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ CX-5 เมื่อผสมผสานกับบริเวณคอนโซลกลางที่กว้างและที่พักแขนบริเวณประตู ทำให้ได้เบาะนั่งที่ให้ความสบายและผ่อนคลาย ระยะที่เพิ่มขึ้นระหว่างตำแหน่งสะโพกของเบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้พื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่บริเวณขากว้างมากขึ้น ตลอดจนพื้นและจุดสะโพกที่ต่ำทำให้ที่นั่งด้านหลังสะดวกสบายแม้ผู้โดยสารจะตัวสูง การปรับตำแหน่งที่นั่งให้เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารทุกคน คำนึงถึงการจัดวางตำแหน่งที่ทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าของกันและกันได้ง่าย การออกแบบใหม่ทำให้มีพื้นที่ ที่สะดวกสบายเป็นอย่างมากสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน ในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมการสนทนาได้ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร

ตารางเปรียบเทียบคุณลักษณะที่สำคัญ

CX-30 CX-3 (อ้างอิง) CX-5 (อ้างอิง)
ความยาวรวม มิลลิเมตร 4,395 4,275 4,550
ความกว้างรวม มิลลิเมตร 1,795 1,765 1,840
ความสูงรวม (ถึงหลังคารถ) มิลลิเมตร 1,540 1,535 1,680
ระยะฐานล้อ มิลลิเมตร 2,655 2,570 2,700
ระยะจากล้อหน้าถึงกันชนหน้า มิลลิเมตร 915 910 950
ระยะจากล้อหลังถึงกันชนหลัง มิลลิเมตร 825 795 900
ระยะต่ำสุดจากพื้น มิลลิเมตร 175 160 193
ระยะเหนือศีรษะด้านหน้า มิลลิเมตร 967 976 1,007
ระยะบริเวณไหล่ด้านหน้า มิลลิเมตร 1,412 1,360 1,451
ระยะบริเวณขาด้านหน้า มิลลิเมตร 1,058 1,058 1,041
ระยะเหนือศีรษะด้านหลัง มิลลิเมตร 973 944 991
ระยะบริเวณไหล่ด้านหลัง มิลลิเมตร 1,361 1,281 1,391
ระยะบริเวณขาด้านหลัง มิลลิเมตร 921 888 1,007

การเข้าและออกจากรถ

การออกแบบเพื่อให้มีระยะต่ำสุดจากพื้นมากขึ้นสำหรับรถครอสโอเวอร์เอสยูวี ระยะความสูงจากพื้นและจุดสะโพกของแต่ละที่นั่งได้มีการปรับให้เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่มีสรีระที่แตกต่างกันสามารถเข้าและออกจากที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังได้โดยง่าย นอกจากนี้แผงประตู เสาบี และรูปทรงของเบาะนั่งได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนตัวกรณีเข้าและออกจากห้องโดยสาร สิ่งนี้ทำให้ทางเข้าดูกว้างขึ้นทันทีที่เปิดประตูออกและช่วยเพิ่มความง่ายในการเข้าและออกจากรถ

พื้นที่เก็บสัมภาระ

ความจุขนาดใหญ่และพื้นที่เปิดกว้างเพิ่มความง่ายในการใช้งาน

ความจุสัมภาระขนาด 317 ลิตร (VDA) ขนาดกว้างพอที่จะรองรับรถเข็นเด็กและกระเป๋าเพิ่มอีกหนึ่งใบ เช่น กระเป๋าเดินทางที่สามารถถือขึ้นเครื่องบิน เป็นต้น ในขณะที่ประตูท้ายที่มีขนาดกว้าง 1,020 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระและใช้งานได้ง่ายในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ การวิจัยตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic) พบว่า การออกแบบที่ให้ความสูงของขอบห้องสัมภาระท้ายต่ำในระดับ 731 มิลลิเมตรจากพื้น จะช่วยลดการออกแรงทางกายภาพในขณะที่ขนถ่ายสินค้าที่หนักหรือกระเป๋าเดินทาง

ความน่าดึงดูดของรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายและประณีต

บริเวณที่เก็บสัมภาระของ CX-30 ใช้วัสดุแบบไม่มีการถักทอที่ขอบด้านข้างและพื้น ในขณะเดียวกันก็ใช้โครงสร้างผนังแบบเรียบง่าย สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้กระเป๋าสัมภาระถูกขีดข่วนและสร้างภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงความกว้างและคุณภาพที่ดี

ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

ประตูท้ายระบบไฟฟ้าช่วยให้สามารถเปิดและปิดได้ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว CX-30 ใช้ชิ้นส่วนที่ทำจาก เรซิ่นสำหรับโครงสร้างและกลไกของชุดแดมเปอร์ที่เปิดและปิดประตูท้าย ซึ่งรถมาสด้ารุ่นก่อนหน้านี้ใช้โครงและกลไกที่เป็นโลหะ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยจะลดเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำงานของระบบซึ่งรบกวนผู้โดยสารในห้องโดยสาร การเคลื่อนที่อันราบรื่นและการทำงานที่เงียบจะทำให้ได้ผู้โดยสารได้รับความสบายมากยิ่งขึ้น

ตำแหน่งการขับขี่

สามารถปรับตำแหน่งได้

พวงมาลัยที่สามารถปรับสูงต่ำได้ถึง 45 มิลลิเมตร และมีช่วงยืดเข้า-ออก มากถึง 70 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหน้าที่สามารถปรับระดับความเอียงได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อช่วยรองรับต้นขาของผู้ขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้กระดูกเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งตั้งตรงเพื่อรักษาตำแหน่งที่นั่งในอุดมคติของมาสด้า

การจัดวางคอนโซลกลาง

ตำแหน่งที่วางแก้วของ CX-30 ที่อยู่หน้าคันเกียร์ เมื่อใช้ร่วมกับคันเกียร์และปุ่มควบคุมอัจริยะถูกวางในตำแหน่งค่อนไปทางด้านหน้า ซึ่งสามารถทำให้ผู้ขับขี่สามรถใช้งานโดยที่แขนอยู่ในท่าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และจะช่วยให้สามารรถขยับมือระหว่างพวงมาลัยกับคันเกียร์ได้ง่ายขึ้น รูปแบบการจัดวางนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ที่มีขนาดตัวเล็กไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเลื่อนเบาะนั่งไปข้างหน้า CX-30 มีขนาดที่พักแขนที่ยาวเพียงพอ ทำให้แขนของคนขับวางได้มั่นคงมากขึ้นเมื่อใช้งานปุ่มควบคุมอัจริยะ

การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และอุปกรณ์

มาตรวัดแบบ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว

จอแสดงผล TFT LCD ขนาด 7 นิ้วที่อยู่ตรงกลางของแผงหน้าปัดแสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบและชัดเจนตรงไปตรงมาซึ่งช่วยให้จดจำได้ง่าย มาตรวัดทั้งทางด้านซ้ายและขวาหันหน้าไปทางคนขับและมาตรวัดอยู่ในแนวตั้งกับหน้าจอแสดงผลการขับขี่ (Active Driving Display) เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายเพียงแค่ยกหรือลดระดับสายตา รูปแบบการจัดวางสร้างความประทับใจและสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถและผู้ขับขี่ ให้ความมั่นใจผ่อนคลายและช่วยให้มีสมาธิในการขับขี่

การแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว

CX-30 ใช้จอแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว แบบอักษรที่ใช้นั้นเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในหน้าจอแสดงผลการขับขี่และมาตรวัดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าพึงพอใจและสอดคล้องกัน การควบคุมข้อมูลที่จอแสดงผล Center Display ทำได้โดยใช้ปุ่มควบคุมอัจริยะและระบบแสดงตัวอย่างเมนูที่ใช้งานง่าย สอดคล้องกับข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผล ซึ่งถูกควบคุมโดยการใช้ปุ่มควบคุมอัจริยะ ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

การแจ้งเตือน

มาสด้าออกแบบระบบการแจ้งเตือน เพื่อสื่อสารข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ได้อย่างเรียบง่ายและถูกต้อง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำได้โดยการแบ่งหน้าที่ออกจากกัน เป็นการแจ้งเตือนด้วยเสียงและการแสดงด้วยคำเตือน เสียงที่ถูกใช้เพื่อเป็นแนวทางในการรับรู้ของผู้ขับขี่หรือเป็นการถ่ายทอดระดับความเร่งด่วน ในขณะที่จอแสดงผลอธิบายถึงสถานการณ์และวิธีการแก้ไขปัญหา ตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนด้วยเสียงจากลำโพงด้านหน้าหรือด้านหลังและจอแสดงผลนั้นมีการใช้คำอธิบายเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนเข้าใจได้ง่าย โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความปลอดภัยและความมั่นใจได้ในทันที

สวิตช์ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด

มาสด้าใช้ผลการวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ รวมถึงหลักการทางวิศวกรรมของ Kansei เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความสุขในการขับขี่และสามารถรู้สึกได้แม้ในการใช้งานสวิตช์และการควบคุมต่างๆ ความพยายามนี้ ได้ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่การสร้างสวิตช์ทั้งหมดอย่างประณีตเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สอดคล้องไม่ว่าจะถูกกด ดึง โยกสลับ หรือหมุน

สวิตช์บนพวงมาลัย

รูปแบบการจัดวางสวิตช์บนพวงมาลัยของ CX-30 เป็นการผสมผสานระหว่างสวิตช์แบบโยกสลับและสวิตช์แบบกด การใช้งานสวิตช์สามารถกำหนดด้วยความรู้สึกและการเชื่อมโยงทิศทางการทำงานและฟังก์ชันสำหรับการโยกสลับแต่ละครั้ง ซึ่งทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ทัศนวิสัยและมุมมอง

การลดจุดบอดจากทางด้านซ้ายและด้านขวาผ่านกระจกหน้ารถ

CX-30 มีตำแหน่งที่นั่งค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ระดับสายตาที่เหมาะสม โดยมาสด้าได้ทำการวิจัยตามหลักการ สรีรศาสตร์ทำให้ได้มุมมองที่ชัดเจนและไม่มีสิ่งกีดขวาง ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถโฟกัสไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจแม้ขณะขับขี่บนถนนในเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น ความหนาและรูปร่างของเสาเอถูกปรับให้เหมาะสมตามการศึกษาลักษณะของมนุษย์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษามุมมองต่อสิ่งที่มองได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ขับขี่ยังสามารถมองด้วยตาซ้ายหรือขวาแม้ว่าทัศนวิสัยจะถูกกีดขวางชั่วขณะก็ตาม การออกแบบเสาเอช่วยลดจุดบอดด้านหน้าซ้ายและขวา และช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นคนเดินถนนหรือสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในมุมมองของผู้ขับขี่ขณะที่ยังคงรักษาท่าทางการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ

การรับรู้ระยะทางและความเร็ว ถูกออกแบบให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ขับขี่

CX-30 มีการออกแบบบริเวณคนขับโดยคำนึงถึงจิตใต้สำนึกของผู้คนที่มีความสามารถในการกะระยะทางและความเร็วที่ชัดเจน เส้นจากแผงหน้าปัดทอดยาวออกไปถึงจุดที่เส้นถนนบรรจบกันเพื่อเพิ่มพื้นที่การรับรู้ให้กับผู้ขับขี่ การออกแบบโดยรวมทำให้ CX-30 ง่ายต่อการขับขี่ และช่วยให้ผู้ขับขี่กะระยะทางและความเร็วสัมพัทธ์ได้ดีขึ้น

ทัศนวิสัยด้านหลังทำให้มั่นใจมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนเลน

เสาซีมีรูปทรงเพื่อให้มองเห็นภายนอกได้ชัดเจนที่สุดผ่านหน้าต่างด้านหลังที่เสาซี หน้าต่างที่ประตูด้านหลังและหน้าต่างที่เสาซี ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นยานพาหนะที่อยู่ในแนวทแยงมุมด้านหลังรถได้ง่ายเมื่อมองผ่านเหนือหัวไหล่ของผู้ขับขี่ให้ความอุ่นใจเมื่อเปลี่ยนเลน

ที่ปัดน้ำฝนหน้าถูกออกแบบให้รักษาทัศนวิสัยได้อย่างรวดเร็ว

ระบบควบคุมความเร็วการทำงานของที่ปัดน้ำฝนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อเพิ่มสมรรถนะการทำความสะอาดให้สูงสุด ช่วยให้ที่ปัดน้ำฝนสามารถรีดน้ำได้เรียบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยรักษาอัตราการหักเหของแสงและทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่ปัดน้ำฝนยังใช้รูปแบบการควบคุมที่เพิ่มมุมการทำงานของใบปัดน้ำได้กว้างมากขึ้น ทำให้เกิดความสะอาดจนถึงเสาเอและรักษาทัศนวิสัยบริเวณเสาเอด้านผู้ขับขี่ ใบปัดน้ำฝนที่อยู่ใต้ฝากระโปรงช่วยให้การมองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านกระจกหน้ารถ นอกจากนี้ หัวฉีดน้ำล้างกระจกถูกติดตั้งบนก้านปัดน้ำฝนเพื่อให้สามารถเช็ดน้ำออกได้ทันทีหลังการใช้งาน และไม่รบกวนการมองเห็น คุณสมบัติการออกแบบเหล่านี้รวมกันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจมากขึ้นด้วยการนำเสนอมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

Mazda Connect

การใช้งานสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อการสื่อสาร ทำให้ทุกคนที่อยู่ในรถยนต์มีข้อมูลมากขึ้น Mazda Connect มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย และเติมพลังชีวิตด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วยให้การขับขี่ในขณะที่มีการเชื่อมต่ออยู่นั้นเป็นไปได้ง่าย

CX-30 ใช้ระบบ Mazda Connect รุ่นเดียวกับ Mazda3 ใหม่ การปรับปรุงสมรรถนะการทำงานขั้นพื้นฐานทำให้ระบบทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน คุณภาพของภาพและเสียงได้รับการปรับปรุงโดยการแปลงสัญญาณทั้งหมดให้ส่งผ่านด้วยระบบดิจิทัล ระบบเชื่อมต่อระหว่างผู้โดยสารกับอุปกรณ์ที่ทันสมัย   ทำให้การดำเนินงานพื้นฐานสอดคล้องกันในทุกเมนู เมื่อหมุนปุ่มควบคุมอัจริยะเพื่อเลื่อนเมนูและกดเพื่อเลือก โดยสอดคล้องกับเมนูที่มีรูปแบบการจัดวางในแนวตั้ง

ระบบเสียง

Mazda Harmonic Acoustics – ระบบเสียงใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตรงกับลักษณะการได้ยินของมนุษย์

ออกแบบมาเพื่อควบคุมลักษณะของเสียงสามประการ ได้แก่ “ระดับเสียง” “การเปลี่ยนแปลงตามเวลา” และ “ทิศทางต้นกำเนิดเสียง” อย่างเหมาะสม ห้องโดยสารของ CX-30 ลดเสียงรบกวนและรักษาความเงียบได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งช่วยให้เสียงที่จำเป็นเท่านั้นเข้าถึงหูได้อย่างเป็นธรรมชาติและเป็นที่น่าพอใจ ผ่านการยกระดับศักยภาพของพื้นที่ช่วยให้ได้ยินเสียงอย่างเหมาะสม ทีมพัฒนาได้ทำการศึกษาว่าเสียงเดินทางมาถึงหูของผู้โดยสารอย่างไร รวมถึงการรับรู้ถึงเสียงเหล่านั้นอย่างไรเพื่อพัฒนาระบบเสียง ด้วยการจัดวางตำแหน่งลำโพงให้สอดคล้องกับคุณลักษณะการได้ยินของมนุษย์ ความพยายามเหล่านี้ทำให้เกิดระบบเสียง Mazda Harmonic Acoustics ใหม่

ลำโพงที่ให้เสียงเบสตั้งอยู่ที่มุมด้านหน้าของห้องโดยสารซึ่งสามารถให้เสียงต่ำได้ดีขึ้น ลำโพงเสียงกลางและลำโพงเสียงแหลมจะอยู่ในตำแหน่งส่วนบนทั้งด้านซ้ายและขวาของแผงประตูหน้าและประตูหลัง ซึ่งเสียงจะถูกส่งไปยังหูของผู้ขับขี่โดยตรงโดยไม่สะท้อนจากกระจกหน้ารถ ดังนั้น การจัดวางลำโพง 8 ตัว โดยมีลำโพงเสียงต่ำขนาด 3 ลิตร ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของคอนโซลหน้า ลำโพงเสียงแหลมขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่ด้านซ้ายและขวาของกระจกมองข้าง และลำโพงเสียงกลางขนาด 8 เซนติเมตร ที่ส่วนบนของแผงประตูหน้าและหลัง หลังจากปรับรูปแบบการจัดวางลำโพงที่สมบูรณ์แบบแล้ว ตัวขยายเสียงยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับพื้นที่ห้องโดยสารของ CX-30 มากที่สุด คุณสมบัติเหล่านี้ผสมผสานกับระดับของความเงียบสงบที่มีคุณภาพภายในห้องโดยสาร เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้นโดยมีจุดกำเนิดเสียงที่เหมาะสม เพิ่มความลึกและความชัดเจนของเสียงที่มากขึ้น

ระบบเสียงของ Bose® 12 ลำโพง

Mazda CX-30 ยังมาพร้อมกับระบบเสียงลำโพง 12 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Bose Corporation ด้วยรูปแบบการจัดวางลำโพงพื้นฐานของระบบ Mazda Harmonic Acoustics ลำโพง 12 ตัวของระบบเสียง Bose®ประกอบด้วยลำโพงเสียงต่ำขนาด 3 ลิตร ที่ติดตั้งบริเวณด้านข้างของคอนโซลหน้า ลำโพงเสียงแหลมขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่ด้านซ้ายและขวาของกระจกมองข้าง และลำโพงเสียงกลางขนาด 8 เซนติเมตร ในส่วนบนของแผงประตูหน้าและหลัง เพิ่มลำโพงกลาง 8 ซม.กลางคอนโซลหน้าด้านบน ลำโพงคู่หลังและซับวูฟเฟอร์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้เองเพื่อมอบเสียงเบสที่ทรงพลังและคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นในแบบของ Bose® นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้โดยสารในห้องโดยสารเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่นำเสนอด้วย Centrepoint®2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสียงของ Bose

สมรรถนะการขับขี่

ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจและควบคุมง่ายดั่งใจ

สมรรถนะในการขับขี่แบบ Jinba-ittai ของมาสด้ายังพัฒนาต่อไปเพื่อมอบอิสระและความสุขในการขับขี่ที่มากขึ้น
“Ultimate Jinba-ittai” – ความรู้สึกที่ว่ารถเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้ขับขี่ ควบคุมได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องไตร่ตรอง – เป็นเป้าหมายของมาสด้า มาสด้าได้เปิดตัว SKACTIV-Vehicle Architecture ซึ่งเป็นสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของแนวคิดการพัฒนาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า ทำให้ CX-30 สามารถเปิดมิติใหม่ของความเพลิดเพลินในการขับขี่

ในขณะที่การควบคุมอย่างแม่นยำด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจและสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ ห้องโดยสารยังมีความเงียบสงบผ่านการพัฒนาเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (Noise, Vibration and Harshness, NVH) ด้วยการศึกษาลักษณะประสาทสัมผัสของมนุษย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน CX-30 ให้อิสระแก่ผู้ขับขี่ในการควบคุมรถตามความต้องการและในขณะเดียวกันก็ให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้นั่งอย่างเพลิดเพลินและสบายมากขึ้น

ระบบขับเคลื่อน

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0 รุ่นล่าสุดของมาสด้ามีการพัฒนาท่อไอดีและรูปทรงของลูกสูบที่เหมาะสม ระบบการฉีดน้ำมัน วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็น เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

คุณลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน

SKYACTIV-G 2.0

ปริมาตรกระบอกสูบ 1,998 ซีซี
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก 83.5 มิลลิเมตร x 91.2 มิลลิเมตร
อัตราส่วนการอัด 13.0 : 1
กำลังสูงสุด 121 กิโลวัตต์ (165 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง  15.4 กิโลเมตรต่อลิตร

เทคโนโลยีแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ : SKYACTIV-Vehicle Architecture

มนุษย์มีความสามารถในการควบคุมขา กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลัง ในลักษณะที่ทำให้ร่างกายมีความสมดุลและลดการเคลื่อนไหวของศีรษะเมื่อเดินหรือวิ่ง เพื่อเลียนแบบท่าทางการเดินอย่างเป็นธรรมชาติแม้ในขณะขับขี่ มาสด้าจึงพัฒนาโดยให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยออกแบบให้เบาะนั่ง ตัวถัง และแชสซี ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย นำไปสู่จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Architecture ด้วยเป้าหมายคือ เพื่อให้คนมีท่านั่งที่เป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายขณะขับขี่ CX-30 ตระหนักถึงความลงตัวของการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์ในแง่ของความสบายในการขับขี่ และการรักษาสมดุลของร่างกายโดยปราศจากความกังวลใดๆ

เบาะนั่งช่วยรักษาท่านั่งที่เป็นธรรมชาติ

เบาะนั่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้เป็นรูปตัว S ตามธรรมชาติ เบาะรองนั่งและพนักพิงหลังส่วนล่างรองรับกระดูกเชิงกรานส่วนล่าง กระดูกเชิงกรานส่วนบน และต้นขา เพื่อให้กระดูกเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง ในขณะเดียวกันพนักพิงหลังส่วนบนยังช่วยรองรับจุดศูนย์ถ่วงของกระดูกซี่โครง ยิ่งไปกว่านั้นการปรับรูปทรงเบาะนั่งและพนักพิงหลังพร้อมการปรับค่าของสปริงในแต่ละส่วนให้เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขยับกระดูกเชิงกรานและกระดูกสันหลังเพื่อปรับสมดุลของจุดศูนย์ถ่วงร่างกายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเหมือนกับขณะเดิน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาสมดุลของศีรษะได้ตามธรรมชาติเพื่อตอบสนองต่อแรงที่ส่งมาจากพื้นถนน

ระบบช่วงล่างที่ส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากถนนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ตามแนวคิดของการส่งผ่านแรงที่ราบรื่นไปยังน้ำหนักที่อยู่เหนือสปริง (Sprung mass) ระบบรองรับของ  CX-30 ใช้แม็คเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Struts) ด้านหน้า และใช้แบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม (Torsion beam) ที่ด้านหลัง ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Mazda3 ใหม่ ได้ใช้บุชลูกยางที่มีโครงสร้างภายในเป็นทรงกลมและแกนกลางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางแตกต่างกันไปจากกึ่งกลางไปจนถึงหน้าตัดด้านนอก นอกจากนี้มุมของ ปีกนกล่างและความสูงของจุดศูนย์กลางของโครงถูกปรับให้เหมาะสมกับความสูงของรถ การสร้างระบบรองรับที่ให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน เพิ่มความรู้สึกของการตอบสนองโดยตรงถึงผู้ขับขี่ เป็นผลให้คนขับมีสมดุลในการควบคุม และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

ตัวถังดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

CX-30 ยังเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพการถ่ายโอนพลังงานตามแนวคิดดั้งเดิมของมาสด้าบนฐานของเฟรมที่ถูกเสริมด้วยโครงสร้างแบบวงแหวนที่ต่อเนื่อง มีการเพิ่มการเชื่อมต่อแบบใหม่จากด้านหน้าไปด้านหลังในตำแหน่งต่างๆ เช่น จุดยึดแดมเปอร์ด้านหน้าและด้านหลังซึ่งเสริมการเชื่อมต่อแนวตั้งและด้านข้างของตัวถังของรถรุ่นก่อนหน้า เพื่อสร้างโครงสร้างวงแหวนแบบหลายทิศทางที่เพิ่มความแข็งแรงและลดการหน่วงของแรงที่ส่งผ่านเข้ามา สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการทำงานของแดมเปอร์และยาง โดยมุ่งเน้นที่การรับแรงที่มาจากพื้นผิวถนนในสภาพต่างๆ และใช้โครงสร้างตัวถังทำหน้าที่เป็นวัสดุตัวกลางในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน ซึ่งตัวถังจะลดการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้ทำให้น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

สมรรถนะการเบรก

สมรรถนะการเบรกในอุดมคติของมาสด้า คือการสร้างแรงเบรกเบาๆ ทันทีที่ผู้ขับขี่สัมผัสกับแป้นเบรกแล้วรักษาระดับความแรงให้คงที่ แรงเบรกควรลดลงอย่างนุ่มนวลเมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพียงเล็กน้อย CX-30 ใช้การออกแบบคาลิปเปอร์เบรกแบบใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ามีระยะห่างที่คงที่ระหว่างผ้าเบรกและจานเบรกตลอดเวลา หรือแม้หลังการเบรกอย่างแรง สิ่งนี้จะช่วยลดความต้านทานการหมุนและปรับปรุงการควบคุมเบรกได้อย่างมาก  ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ในรถสามารถรักษาสมดุลและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่ที่สบายไร้ความกังวล

เทคโนโลยีควบคุมรุ่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus)

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus หรือ G-Vectoring Control Plus เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเลี้ยวโดยการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของรถ นอกเหนือจากการควบคุมเครื่องยนต์แบบเดิมด้วย GVC เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus จะเพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อหน้าด้านนอก ทำให้เกิดเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้น ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการหันเห (yaw) การโคลงของตัวรถ (roll) และการกระดกหน้า-หลัง (pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางที่มาก เป็นการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถจากการหมุนพวงมาลัยอย่างกระทันหัน และการออกจากโค้งที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถในการหลบหลีกการชนปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Plus ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถเมื่อเปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ

สมรรถนะเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH)

มาสด้ามองว่าสมรรถนะเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) เป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่อย่างปลอดภัยและสบาย และได้พยายามอย่างเต็มที่ในการเพิ่มสมรรถนะในทุกส่วนของรถยนต์ที่สร้างขึ้น หนึ่งในความพยายามดังกล่าวคือการนำผลการศึกษาวิจัยกับมนุษย์มาใช้ โดยมุ่งเน้นไปที่ลักษณะของเสียง 3 ประการ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสารในห้องโดยสาร ได้แก่ ระดับความดังของเสียง การเปลี่ยนแปลงคุณภาพเสียงเมื่อเวลาผ่านไป และทิศทางจากจุดกำเนิดเสียง นอกเหนือจากจุดประสงค์เพื่อลดเสียงรบกวนด้วยการลดเสียงที่ต้นกำเนิดของเสียงแล้ว เป้าหมายสำหรับ CX-30 คือการควบคุมการเปลี่ยนแปลงคุณภาพและทิศทางของเสียงหลังจากที่เสียงเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อให้เกิด “ความเงียบในระดับสูง” เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจ

มาตรการฉนวนกันเสียง

มาสด้าปรับปรุงสมรรถนะของฉนวนโดยไม่เพิ่มน้ำหนักด้วยการใช้โครงสร้าง “ผนังสองชั้น” ที่เว้นช่องว่างระหว่างพรมปูพื้นและแผงตัวถังด้านล่าง และระหว่างแผงประตูกับแผงตกแต่งด้านใน นอกจากนี้ ปริมาณวัสดุไฟเบอร์ที่ด้านหลังของพรมปูพื้นถูกปรับให้เข้ากับตำแหน่งเฉพาะเพื่อให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสมที่สุดทั่วทั้งพื้น มีความพยายามอย่างมากในการลดจำนวนรูให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น พรม และแผงประตูบริเวณที่ติดตั้งลำโพง ซึ่งเป็นการช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของฉนวนกันเสียง

มาตรการลดเสียงลมสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง

การใช้ซีลภายในตรงเส้นขอบประตูหลังช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมที่พัดผ่านช่องว่างได้เป็นอย่างดี

มาตรการลดเสียงจากถนน

CX-30 ใช้วัสดุบุด้านบนเพื่อดูดซับเสียงเหนือศีรษะและพรมปูพื้น เพื่อป้องกันเสียงความถี่สูงที่เกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวถนนเปลี่ยนจากขรุขระเป็นเรียบ สามารถหยุดเสียงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้เกิดเสียงสะท้อนภายในห้องโดยสาร ช่วยป้องกันเสียงรบกวนผู้โดยสารภายในห้องโดยสาร ยางที่มีลักษณะเป็นสปริงในแนวดิ่งจะดูดซับการสั่นสะเทือนที่เกี่ยวข้องจากการเพิ่มระดับเสียงจากถนนเมื่อรถวิ่งจากพื้นผิวถนนเรียบเปลี่ยนไปเป็นขรุขระ นอกจากนี้ ได้เพิ่มความแข็งแรงของจุดต่างๆ ที่การสั่นสะเทือนอาจถูกส่งผ่านไปยังช่วงล่างและตัวถัง เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร


ความปลอดภัย

สมรรถนะความปลอดภัยที่โดดเด่นสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเพื่อช่วยสังคมให้ใช้รถยนต์โดยปราศจากอุบัติเหตุ

ปรัชญาเรื่องความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) เป็นแนวทางในการวิจัยและพัฒนาของบริษัทในด้านสมรรถนะด้านความปลอดภัย ความล้ำหน้าของการขับขี่ในทุกด้านตั้งแต่พื้นฐานด้านความปลอดภัย เช่น ตำแหน่งท่านั่งในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงปกป้องไปจนถึงเทคโนโลยี i-Activsense ที่ล้ำหน้า CX-30 ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมายที่เกิดจากความพยายามในการวิจัยเหล่านี้

ในส่วนของความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ของ CX-30 เช่น ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีช่วยเบรกอัตโนมัติ ที่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับรอบทิศทางที่มาสด้าได้นำมาใช้ การพัฒนาความปลอดภัยเชิงปกป้องมุ่งเน้นไปที่การศึกษาลักษณะของมนุษย์และรายละเอียดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชนและเพิ่มสมรรถนะการปกป้องคนเดินเท้า CX-30 พัฒนาต่อไปเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัย ช่วยสร้างสังคมใช้รถที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

ความปลอดภัยเชิงป้องกัน: i-Activsense

ระบบ i-Activsense ที่ใช้ใน CX-30

ประเทศไทย
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SBS) ●
ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SBS-R) ●
ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (SBS-RC) ●
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH) ●
ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ●
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ●
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ●
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ●
ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน (LAS) ●
ระบบแจ้งเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) ●
ระบบควบคุมความเร็วรถอัติโนมัติ (MRCC) ●
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS) ●

ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS)

ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS) ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่โดยช่วยควบคุมความเร็ว เบรก และการบังคับเลี้ยวเมื่อขับรถบนทางหลวงที่มีการจราจรหนาแน่น เมื่อเปิดใช้งาน CTS ระบบจะปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสมตามรถข้างหน้า นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลนบนทางโค้ง CTS ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจและความสบายมากขึ้นในขณะขับรถในการจราจรหนาแน่น

ความปลอดภัยเชิงปกป้อง

ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งสูงที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย

ประกอบด้วยเหล็กกล้า ทนแรงดึงสูง 980 เมกะพาสคาลหรือสูงกว่าประมาณ 30% และรวมถึงการใช้เหล็กกล้าระดับ 1,310 เมกะพาสคาลในบางพื้นที่อีกด้วย CX-30 จึงมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาเป็นอย่างมาก วัสดุคุณภาพสูงรวมกับคานแบบใหม่ที่กรอบตัวถัง โดยเฉพาะที่เสาบีที่ออกแบบใหม่มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบา และเฟรมด้านหลังให้ยุบตัวได้แบบเดียวกับลักษณะการยุบตัวของหีบเพลง (Accordion-style pattern) เพื่อสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งสามารถทนต่อแรงกระแทกและโครงสร้างที่ดูดซับพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรการปกป้องจากการชนด้านหน้า

ตัวถังถูกพัฒนาไปใช้โครงสร้างที่มีการเชื่อมอย่างต่อเนื่องกันทั้งคัน และโครงสร้างแบบตรงของมาสด้า นอกจากนี้ ยังใช้คานโดยรอบช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อมีรถชนกับ CX-30 แบบเหลื่อมกัน ในการชนเช่นนี้ เมื่อเกิดการเหลื่อมซ้อนกันเล็กน้อยกับรถที่ชนหรือสิ่งกีดขวาง วัสดุที่ใช้กับคานโดยรอบทางด้านขวาและด้านซ้ายจะกระจายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับโครงสร้างเฟรมด้านหน้าที่สามารถโค้งงอได้เมื่อเกิดการชนอย่างหนัก และค่อยๆ ดูดซับแรงกระแทก เพื่อให้ได้คุณสมบัติการดูดซับแรงที่มีประสิทธิภาพสูง

มาตรการปกป้องจากการชนด้านข้าง

ตัวถังถูกสร้างขึ้นเพื่อรับแรงกระแทกที่มาจากหลากหลายทิศทางและ ณ ตำแหน่งต่างๆ เพื่อช่วยลดการเสียรูปของห้องโดยสารโดยกระจายแรงนั้นไปยังด้านหน้าและด้านหลังของรถ CX-30 เป็นรถยนต์มาสด้าคันแรกที่ติดตั้งเหล็กกล้าแข็งแรงสูง (hot-stamped material) กับวัสดุเสริมแรงที่ถูกประกอบขึ้นรูปกันเป็นเสาบี วิธีการนี้มีประสิทธิภาพทั้งในด้านของความแข็งแรงและน้ำหนักที่ลดลง

มาตรการปกป้องจากการชนด้านหลัง

เฟรมด้านข้างส่วนหลังได้รับการออกแบบให้เสียรูปได้แบบหีบเพลงในกรณีที่เกิดการชน สิ่งนี้ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงได้เป็นสองเท่าของโครงสร้างที่ใช้ก่อนหน้านี้โดยไม่เพิ่มน้ำหนัก ในขณะที่ยังได้รับความปลอดภัยจากการชนระดับสูง สมรรถนะเชิงพลศาสตร์ และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

ระบบถุงลมนิรภัย SRS

นอกจากถุงลมนิรภัยด้านหน้า ถุงลมแบบม่าน และถุงลมด้านข้างส่วนหน้าที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน CX-30 ยังติดตั้งถุงลมนิรภัยที่บริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในตลาดทุกประเทศทั่วโลกอีกด้วย ในกรณีที่เกิดการชน ถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าของผู้ขับขี่จะช่วยลดการบาดเจ็บที่ขา หน้าอก และหน้าท้อง โดยการหยุดการเคลื่อนที่ของร่างกายคนขับไปข้างหน้า

เบาะนั่งด้านหน้าถูกออกแบบมาเพื่อบรรเทาการบาดเจ็บที่คอ

ที่นั่งด้านหน้าที่คืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมหลังจากการชน ถูกลดระดับความแรงลงโดยใช้เบาะที่แข็งและเฟรมด้านข้างที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรง เพื่อช่วยลดโอกาสและความรุนแรงของการบาดเจ็บที่คอโดยลดการเคลื่อนที่ของศีรษะ หน้าอก และกระดูกเชิงกรานตอนเกิดการชน

เข็มขัดนิรภัย

ที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (pretensioner and load limiter) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จะรัดแน่นขึ้นในจังหวะที่เกิดการชนและผ่อนแรงออกเมื่อควบคุมได้ คุณลักษณะของรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติด้านซ้ายและขวาในส่วนของที่นั่งหลังด้วย นอกจากนี้ ที่ยึดด้านล่างสำหรับเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหน้าติดกับที่นั่งโดยตรง สิ่งนี้จะรักษาความกระชับของเข็มขัดนิรภัยโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งที่นั่งและทำให้เข็มขัดนิรภัยสามารถควบคุมผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดการชน

การปกป้องคนเดินเท้า

มาตรการปกป้องศีรษะคนเดินเท้า

พื้นที่ที่ช่วยดูดซับแรงที่อยู่ระหว่างฝากระโปรงและเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการบาดเจ็บที่ศีรษะของคนเดินเท้าหากเกิดอุบัติเหตุการชนที่ฝากระโปรงหน้ารถ ด้านในของฝากระโปรงหน้ายังใช้โครงสร้างการดูดซับแรงที่มีรูปแบบเป็นเสาคู่ขนานติดตั้งอยู่ใกล้กับพื้นผิวฝากระโปรง แรงกระแทกจะถูกดูดซึมโดยตรงในช่วงเวลาแรกของการปะทะจากนั้นค่อยๆ กระจายไป และสิ่งนี้จะช่วยให้ดูดซับแรงได้เร็วขึ้น

มาตรการปกป้องขาคนเดินเท้า

เพื่อลดโอกาสของการบาดเจ็บที่ขาของคนเดินเท้า กันชนหน้าจะใช้ชิ้นส่วนพลาสติกติดตั้งอยู่ที่ส่วนบนพร้อมกับกันชนด้านล่างทำจากพลาสติกวางอยู่ด้านหน้าคานกันกระแทก เพื่อการรองรับต้นขาและหน้าแข้งเมื่อเกิดการชนและทำให้การกระแทกที่เข่านุ่มลง โครงสร้างนี้ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าหรือเอ็นที่เกิดจากขาที่งอเนื่องจากถูกชน

โดยทั้งหมดนี้คือ ALL NEW MAZDA CX-30 ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่โดดเด่นในทุกมิติ และสามารถจองในระบบออนไลน์ผ่าน https://skybooking.mazda.co.th/ ได้แล้ววันนี้ ซึ่งมีราคาจำหน่าย 3 รุ่น คือ

  • ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 C ราคา    989,000  บาท
  • ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 S ราคา  1,099,000  บาท
  • ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 SP ราคา  1,199,000  บาท

 

 

 

ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.00 น.

หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com

ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv

และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV

Facebook Comments
TagsCX-30MAZDA CX-30รถใหม่
Previous Article

ALL-NEW MAZDA CX-30 เปิดราคาเริ่มต้น 989,000 บาท

Next Article

อีซูซุ คว้า “CAR OF THE YEAR 2020” ...

0
Shares
  • 0
  • 0

Related articles More from author

  • Autolike New CarFeatured

    โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปรับโฉมพร้อมปรับราคาลง รุ่นเริ่มต้น 1,319,000 บาท

    June 4, 2020
    By Article writer
  • Autolike Event

    ยอดขายแรงตัวจริง “มาสด้า3” ส่งมอบรถใหม่ไปแล้วกว่า 600 คัน

    October 10, 2019
    By Article writer
  • Autolike New Car

    The new Audi A8 L ความหรูที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ

    March 5, 2018
    By Article writer
  • Autolike Event

    ALL-NEW MAZDA CX-30 เปิดราคาเริ่มต้น 989,000 บาท

    March 6, 2020
    By Article writer
  • Autolike Event

    “แปซิฟิค มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 22” กระตุ้นบรรยากาศเศรษฐกิจในพื้นที่คึกคัก

    November 27, 2019
    By Article writer
  • Autolike New CarFeatured

    โตโยต้า C-HR ประกาศราคาเริ่มต้น 979,000 บาท

    January 12, 2018
    By Article writer

Find us on Facebook

logo

“ออโต้ไลค์ทีวี” เว็บไซต์ยานยนต์ สำหรับคนนำสมัย คอนเซ็ปต์ “แค่คลิกไลค์ ใจคุณก็รักรถ”

About us

  • 63 ซอยลาดปลาเค้า 33 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
  • 02-077-7440
  • autoliketv@gmail.com
https://www.youtube.com/watch?v=SSqAWgla-3o
https://www.youtube.com/watch?v=vORAW8_5fbY
https://www.youtube.com/watch?v=Vc9BustjqLA
https://www.youtube.com/watch?v=hEmirJo7aJs
© Copyright AUTOLIKETV TEAM. All rights reserved.