Autoliketv

Top Menu

  • Home
  • Contact Us

Main Menu

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • Home
  • Contact Us

logo

Header Banner

Autoliketv

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอีซูซุ มอบเงินช่วยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รวม 1 ล้านบาท

  • บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive รหัสแรงรุ่นใหม่ประกอบไทย เตรียมเปิดจองออนไลน์ 3 มีนาคมนี้

  • เกรท วอลล์ แจกจริง บัตรกำนัลซื้อรถมูลค่า 1 ล้านบาท แก่ผู้โชคดี GWM SAWASDEE THAILAND

  • ALL-NEW MAZDA BT-50 ขายดี เริ่มส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วประเทศแล้ว

  • อาวดี้ ประเทศไทย คว้าสิทธิ์จำหน่าย “ดูคาติ” ในไทยอย่างเป็นทางการ

Autolike Event
Home›Autolike Event›ฮอนด้า ประกาศยอดขายครึ่งปี 2563 ครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

ฮอนด้า ประกาศยอดขายครึ่งปี 2563 ครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

By Article writer
August 3, 2020
Share:

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รายงานผลการดำเนินงานในระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ด้วยยอดจำหน่ายสะสมระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 จำนวนทั้งสิ้น 41,326 คัน หรือคิดเป็น 29.2% สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่ง จากยอดขายรวมรถยนต์นั่ง 141,366 คัน โดย ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ฮอนด้า ซีวิค ฮอนด้า เอชอาร์-วี และ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังคงเป็นรถยนต์ยอดนิยมและครองตำแหน่งผู้นำในกลุ่ม จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ฮอนด้าคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 680,000 คัน พร้อมกันนี้ ฮอนด้าได้ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2563 ที่พร้อมตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยจะเน้นกลยุทธ์ด้านดิจิทัล พร้อมยกระดับงานบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความสะดวกและมั่นใจให้กับลูกค้ารองรับไลฟ์สไตล์แบบ New Normal

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

ภาพรวมธุรกิจยานยนต์และความเคลื่อนไหวของฮอนด้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการทำงาน  ผู้บริโภคไม่กล้าใช้จ่าย และชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้า ภาคธุรกิจทั้งประเทศหยุดชะงักรวมทั้งธุรกิจรถยนต์ด้วย ส่งผลต่อยอดขาย
ในครึ่งปีแรก 2563 (มกราคม – มิถุนายน 2563) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายรถยนต์รวม 325,773 คัน หรือลดลง 38.7% เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรวม ที่มียอดขาย 141,366 คัน หรือลดลง 41.8%

ยอดการจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในครึ่งแรกของปี 2563

ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนที่สถานการณ์โควิด-19 มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์เป็นอย่างมาก แต่มีทิศทางที่ดีขึ้นด้วยยอดขายที่เริ่มฟื้นกลับขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปีนี้ ฮอนด้ามียอดขายรวม 41,326 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 29.2% ซึ่งสามารถครองยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีอัตราลดลง 36.1%  ซึ่งถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ฮอนด้าก็ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลโดยรวม

สำหรับยอดขายรถยนต์ฮอนด้า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม – มิถุนายน 2563) แบ่งตามเซกเมนต์ ประกอบด้วย

กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์ซีดาน

  • ฮอนด้า ซิตี้ ยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนี้ ด้วยยอดขาย 16,950 คัน หรือคิดเป็น 39.3%

กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์

  • ฮอนด้า ซีวิค และฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยังครองความเป็นผู้นำด้วยยอดขาย 8,656 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 56.7%

กลุ่มรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์

  • ในกลุ่มรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ขนาดกลาง ฮอนด้า เอชอาร์-วี ครองอันดับ 1 มียอดขายสะสม 3,667 คัน
    ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 33%
  • กลุ่มรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ครองอันดับ 1 มียอดขายสะสม 1,978 คัน
    ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 43%

กลุ่มรถยนต์ครอบครัว

  • ฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดขายสะสม 2,270 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 45.3%

ทิศทางการดำเนินธุรกิจของฮอนด้า ในปี 2563

ในช่วงนี้ลูกค้าบางส่วนที่เคยชะลอการซื้อออกไปก็เริ่มกลับมาตัดสินใจซื้อสินค้า ผนวกกับภาครัฐที่มีมาตรการผ่อนปรนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนมีแผนฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทยอยออกมา ซึ่งฮอนด้าคาดว่าจากปัจจัยเหล่านี้จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ความต้องการการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ฮอนด้า ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใน 3 ด้าน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคใหม่ อันประกอบด้วย

1) ด้านการขายและการตลาด

ฮอนด้า เพิ่มความเข้มข้นด้านการตลาดออนไลน์ โดยใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์ (Big Data) และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในหลายด้าน อาทิ

  • Online Channel

ฮอนด้าได้ยกระดับรูปแบบการจัดกิจกรรมออนไลน์ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • New Normal Auto Show

ฮอนด้าได้ปรับรูปแบบการจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ต่างๆ โดยยึดแนวคิด Less is More คือการปรับลดโครงสร้าง เปิดพื้นที่บูทให้กว้าง เน้นระยะห่างอย่างเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าชมรถได้อย่างมั่นใจ และได้มีการแนะนำ Webchat เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารออนไลน์ และพูดคุยระหว่างลูกค้ากับที่ปรึกษาการขายจากโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ทั้งยังมี 360 Experience ให้ลูกค้าที่แม้จะไม่ได้มาเดินชมงานด้วยตัวเอง ก็สามารถรับชมบรรยากาศบูท วิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์โดยฮอนด้าเลดี้ ไปจนถึงการรับข้อเสนอต่างๆ ซึ่งเป็นข้อเสนอเดียวกันกับที่งาน

  • Online Training

ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการฝึกอบรม จากการเรียนในห้องอบรมเป็นการเรียนในรูปแบบออนไลน์ และการสอนผ่านทางไกล (Live Training Class) เพื่อพัฒนาบุคลากรทั้งของฮอนด้า และผู้จำหน่ายให้พร้อมบริการลูกค้า
ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

2) ด้านการบริการหลังการขาย

พร้อมสร้างคุณค่าของงานบริการแบบใหม่ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าการดูแลรถยนต์ฮอนด้าเป็นเรื่องง่าย และสามารถเลือกรับบริการได้ในรูปแบบที่ต้องการ โดยได้ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของลูกค้าแบบ New Normal มากยิ่งขึ้น  โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในงานด้านต่างๆ ดังนี้

  • Online Booking ส่งเสริมระบบการจองคิวออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า
  • Super Fast Tech เพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • Roadside Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง โดยช่างผู้ชำนาญงานจากศูนย์บริการ

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ร่วมกับผู้จำหน่ายนำร่องเพื่อนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ตอบรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal  ได้แก่

  • Drop & Go Services สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการรอรับบริการที่ศูนย์บริการ เพียงนัดหมายและยืนยัน
    งานบริการล่วงหน้า เมื่อถึงวันนัดก็สามารถนำรถมาจอดและฝากกุญแจ ณ จุดบริการได้เลย รวมถึงสามารถชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ (e-Payment) ได้อีกด้วย
  • Home Services บริการอำนวยความสะดวกในการดูแลรถยนต์ (บางรายการ) ถึงบ้าน

3) ด้าน Digital Transformation

สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของทั้งองค์กร โดยนำดิจิทัล เทคโนโลยีมาใช้ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน
ในตลาด และเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งในยุคที่มีการแข่งขันสูง Digital Transformation มีส่วนสำคัญในการสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ฮอนด้าได้เน้นการสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลทุกส่วนงาน
มุ่งยกระดับทักษะของพนักงานทางด้านดิจิทัล มีการเชื่อมโยงข้อมูล พร้อมนำไปวิเคราะห์ร่วมกับการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อการพัฒนารูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ และการสื่อสารทางการตลาด ไปสู่สิ่งที่ลูกค้าคาดหวังได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ฮอนด้าได้ริเริ่ม Blockchain Innovative Technology (BIT) อีกหนึ่งโปรเจกต์สำคัญ ที่เริ่มต้นขึ้นเพื่อรองรับ Big Data และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจัดตั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ขึ้นมา เพื่อทดลองการทำงานแบบไร้รอยต่อในแต่ละเจเนอเรชัน ในช่วงแรกจะเริ่มใช้กับกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ (CSR)
เพื่อกระตุ้นให้พนักงานทำกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการบันทึกการทำความดีผ่าน Time Banking ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะนำไปประยุกต์ใช้กับงานในส่วนอื่นๆ ของฮอนด้าต่อไปในอนาคต

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปว่า “ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 สถานการณ์โควิดในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ทิศทางตลาดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าในช่วงต้นปีแรก แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดยังมีความอ่อนไหวหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งอาจทำให้ประชาชนกลับมาระมัดระวังการใช้ชีวิตและการใช้เงินอีกครั้งฮอนด้าได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานในหลายด้านเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคใหม่ และยังคงมาตรการ Social Distancing ในโชว์รูมและศูนย์บริการ รวมถึงทุกพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มงวดต่อไป ฮอนด้าคาดว่าตลาดรถยนต์รวมในปี 2563 จะมียอดขายรวม 680,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 32% โดยเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 304,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 35%”

 

 

 

ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.00 น.

หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com

ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv

และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV

Facebook Comments
Tagsตลาดรถยนต์ยอดขายฮอนด้าฮอนด้า
Previous Article

พร้อมดวลความแรง Toyota Gazoo Racing Motorsport 2020 ความกล้าที่จะข้ามขีดจำกัด

Next Article

ตรีเพชรอีซูซุเซลส์รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2019-2020”

0
Shares
  • 0
  • 0

Related articles More from author

  • Autolike Event

    โควิด-19 พ่นพิษ! ตลาดรถยนต์กุมภาพันธ์ ยอดขายรวม 68,271 คัน ลดลง 17.1%

    March 26, 2020
    By Article writer
  • Autolike Event

    ฮอนด้าเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจพลขับ

    August 23, 2018
    By Article writer
  • Autolike Event

    ตลาดรถยนต์มกราคมยอดขายรวม 78,061 คัน เพิ่มขึ้น 17.3%

    February 22, 2019
    By Article writer
  • Autolike Event

    ฮอนด้า ชูวิสัยทัศน์ 2030 โชว์ความล้ำหน้าเทคโนโลยีแห่งอนาคต

    March 28, 2018
    By Article writer
  • Autolike Event

    ฮอนด้า ชูไฮไลต์ “ซีอาร์-วี ใหม่” พร้อมข้อเสนอพิเศษในทุกรุ่น

    August 21, 2020
    By Article writer
  • Autolike Event

    ตลาดรถยนต์ไทยเดือนสิงหาคม ดีขึ้นต่อเนื่อง ลดลงเพียง 12.1%

    September 24, 2020
    By Article writer

Find us on Facebook

logo

“ออโต้ไลค์ทีวี” เว็บไซต์ยานยนต์ สำหรับคนนำสมัย คอนเซ็ปต์ “แค่คลิกไลค์ ใจคุณก็รักรถ”

About us

  • 63 ซอยลาดปลาเค้า 33 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
  • 02-077-7440
  • autoliketv@gmail.com
https://www.youtube.com/watch?v=SSqAWgla-3o
https://www.youtube.com/watch?v=vORAW8_5fbY
https://www.youtube.com/watch?v=Vc9BustjqLA
https://www.youtube.com/watch?v=hEmirJo7aJs
© Copyright AUTOLIKETV TEAM. All rights reserved.