มิตซูบิชิ จับมือพันธมิตร นำร่องใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการขนส่ง
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และ บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) ผนึกความร่วมมือเพื่อนำร่องศึกษาการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles หรือ BEV) เพื่อการพาณิชย์ด้วย รถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจการขนส่งไปรษณีย์และพัสดุ และศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อีกทั้งยังมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ระดับการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ส่งเสริมการจัดส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยจะใช้รถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ในการขนส่งพัสดุให้แก่ลูกค้า โดยเลือกที่ทำการไปรษณีย์นำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ กรุงเทพฯ และ ที่ทำการไปรษณีย์คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเริ่มการศึกษาดังกล่าว และ โออาร์ จะติดตั้งสถานีชาร์จไฟ EV Station PluZ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นำร่องทั้งสองสาขา เพื่อชาร์จไฟรถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ด้วยการชาร์จไฟแบบปกติ (AC) ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยไปรษณีย์ไทยจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากการใช้งานรถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ และการชาร์จไฟฟ้าที่ EV Station PluZ ตลอดจนร่วมกันจัดการฝึกอบรมและลงพื้นที่เพื่อให้พนักงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไปรษณีย์ไทย และ โออาร์ ได้แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเทคนิคร่วมกัน
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ เป็นรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้สามารถบรรทุกสินค้าได้สูงสุด 350 กก. พร้อมผู้โดยสาร 2 คน พื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อพับเบาะผู้โดยสารลงมีความยาว 2,685 มม. และประตูแบบสไลด์ ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า
มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ยังรองรับการชาร์จไฟแบบเร็วด้วยหัวชาร์จ CHAdeMO ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาเพียง 35 นาที หรือด้วยระบบการชาร์จไฟแบบปกติจนเต็มแบตเตอรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลา
7 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบคืนพลังงานขณะเบรกที่จะช่วยแปลงพลังงานจากการเบรกเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในขณะขับขี่ มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ มีความคล้ายคลึงกับมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่สามารถเป็นแหล่งพลังงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต หรือ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ (Dendo Drive House) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดด้านเทคโนโลยี V2X ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้จัดส่งรถ มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ จำนวน 9,000 คัน ให้กับบริษัทขนส่งต่าง ๆ รวมถึงบริษัทค้าปลีก และหน่วยงานรัฐในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงยังจัดส่งอีก 1,500 คัน เพื่อเป็นรถยนต์ที่ใช้ในกรมไปรษณีย์ของญี่ปุ่นอีกด้วย ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม 2564 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินโครงการศึกษานำร่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ในประเทศไทย โครงการศึกษานำร่องทั้งหมด เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว รถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการส่งเสริมยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าของบริษัทฯ ในประเทศไทย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยรถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ปล่อยมลพิษในระดับต่ำจนถึงศูนย์ และช่วยคลายความกังวลด้านระยะทางการขับขี่ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในระดับเดียวกับรถยนต์เอสยูวีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ความพร้อมและความสะดวกสบายด้านโครงสร้างพื้นฐานของการชาร์จไฟฟ้าในปัจจุบัน
โครงการศึกษานำร่องร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย และ โออาร์ ในครั้งนี้ จะช่วยให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าเข้าใกล้เป้าหมายหลักของบริษัทฯ ในการเป็นบริษัทที่ก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลไทยในการลดการปล่อยมลภาวะที่เกิดจากยานพาหนะในประเทศอีกด้วย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นและพร้อมแสวงหาโอกาสความร่วมมือใหม่ ๆ กับองค์กรภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะช่วยตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์และระบบคมนาคมของไทยในอนาคตได้อย่างตรงจุดและ
มีประสิทธิภาพสูงสุด
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00-23.30 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV