Autoliketv

Top Menu

  • Home
  • Contact Us

Main Menu

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • Home
  • Contact Us

logo

Header Banner

Autoliketv

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • นิสสัน คิกส์ เจเนอเรชั่น 2 ส่งตัวท้อปลุยตลาดค่าตัว 949,000 บาท

  • NETA V เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 20 กรกฎาคมนี้

  • ดูคาติ ฉลองครบรอบ 1 ปี ส่งแคมเปญใหญ่แทนคำขอบคุณ

  • มาสด้า2 คว้ารางวัล “สุดยอดผลิตภัณฑ์ขวัญใจมหาชน”

  • ซูซูกิ ชูไฮไลท์ SWIFT GL PLUS พร้อมแคมเปญเฉพาะในงาน Bangkok Auto Salon 2022

Autolike Event
Home›Autolike Event›AutolikeTV ลุยทางโหดกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อม On Air 23 พ.ค.นี้

AutolikeTV ลุยทางโหดกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อม On Air 23 พ.ค.นี้

By Article writer
May 16, 2022
Share:

ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด สมบุกสมบันที่สุด และตอบสนองการใช้งานที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นครั้งแรก บนเส้นทางภูเก็ต – พังงา – กระบี่ สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งบนถนนและแบบออฟโรด พร้อมระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัยที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้อย่างเหนือชั้นผ่านแอปพลิเคชัน ฟอร์ดพาส ยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่ที่มองหารถเพื่อใช้ทั้งในการทำงาน เป็นรถสำหรับครอบครัว และการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Unlimit Your Experience’ สื่อถึงการเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ การก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ไปกับรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค และรุ่นสปอร์ต เริ่มต้นด้วยการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ การออกแบบ และเทคโนโลยีของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดยทีมวิศกรและนักออกแบบรถฟอร์ดจากประเทศออสเตรเลียและไทย รวมถึงการทดลองสตาร์ทรถจากระยะไกลด้วยแอปพลิเคชันฟอร์ดพาสก่อนออกเดินทาง

สื่อมวลชนได้ทดสอบการขับขี่บนทางหลวงที่มีทั้งทางตรงสลับโค้ง โดยสัมผัสได้ถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ความสบายภายในห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเหมือนรถเก๋ง และเสถียรภาพในการขี่ที่เพิ่มขึ้น ด้วยฐานล้อที่กว้างและยาวขึ้นของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รวมถึงการทดสอบเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อย่างระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering) ฟีเจอร์ใหม่ในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ที่ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียงที่ทรงประสิทธิภาพ โดยรุ่นไวลด์แทรค มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีตัวเลือกทั้งแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และขับเคลื่อนสองล้อเป็นครั้งแรก มอบพละกำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที รุ่นสปอร์ต มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาทีและแรงบิด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที และยังเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์ มีตัวเลือกรุ่นไวลด์แทรค 4×2 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มอบพละกำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที

เมื่อเดินทางมาถึง ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ วิลล์’ (Ford Ranger Ville) สนามออฟโรดที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อทดสอบสมรรถนะและการเลือกใช้โหมดการขับขี่ที่ติดตั้งมาในรถฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นครั้งแรก สื่อมวลชนได้ประเดิมประสบการณ์การขับขี่ออฟโรดสุดท้าทายในสถานีที่ 1 การพิชิตเนินชัน ‘Hill Maneuvering’ โดยใช้โหมดการขับขี่ปกติ (Normal mode) คู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) รวมถึงทดสอบความโดดเด่นของสมรรถนะช่วงล่าง  และการไต่ลงเนินชันด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยปรับความดันเบรกอย่างต่อเนื่อง ลดการลื่นไหลและรักษาความเร็วให้คงที่เมื่อขับลงทางลาดชัน ผู้ขับขี่จึงให้ความสนใจกับการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างเต็มที่และมีความมั่นใจมากขึ้น ด้วยมุมจากด้านหลัง 23 องศา (เพิ่มจาก 21 องศาในรุ่นก่อนหน้า) ด้วยฐานล้อที่กว้างและยาวขึ้นของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องด้วยการขับผ่านแอ่งน้ำ ‘Water Wading’ แบบสบายๆ ในสถานีที่ 2 ด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร โดยในสถานีที่ 1 และ 2 นี้ สื่อมวลชนได้ใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศา เพื่อช่วยมองอุปสรรคที่อยู่นอกตัวรถระหว่างการขับขี่ได้อย่างชัดเจน

สถานีที่ 3 สื่อมวลชนได้ใช้โหมดการขับขี่บนถนนลื่น (Slippery Track) โดยระบบจะช่วยกระจายแรงบิดของเครื่องยนต์ไปยังทั้ง 4 ล้อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนถนนลื่นหรือพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ และยังได้สัมผัสถึงมุมมองในการขับขี่ในพื้นที่แคบที่ดีขึ้นด้วยการออกแบบดีไซน์ฝากระโปรงหน้าใหม่ที่ช่วยให้กะระยะในการผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศา เป็นตัวช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นด้านนอกรถให้ควบคุมทิศทางของพวงมาลัยและบังคับทิศทางของรถให้ผ่านอุปสรรคบนเส้นทางได้ สถานีที่ 4 ทางโคลน (Mud Track) เป็นการขับขี่ด้วยโหมดโคลน (Mud Mode) โดยใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) พร้อมโชว์การทำงานของระบบล็อกเฟืองท้าย (Locking rear differential) ที่ช่วยถ่ายเทกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 ทำให้ผ่านเส้นทางโคลนหรือถนนลื่นๆ ไปได้อย่างง่ายดาย

เข้าสู่สถานีที่ 5 พื้นกรวด ‘Loose Surface’ ด้วยการปรับโหมดการขับขี่กลับสู่โหมดการขับขี่บนถนนลื่น (Slippery mode) เพื่อทดสอบการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เป็นทางหินกรวด เพื่อกำลังของเครื่องยนต์ และการตอบสนองของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ขณะใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง

ในสถานีที่ 6 ขับขี่ลุยทางหิน ‘Rocky Terrain’ สื่อมวลชนใช้โหมดการขับขี่ปกติ (Normal mode) พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4L) และระบบล็อกเฟืองท้าย (Locking rear differential) เพื่อทดสอบแรงบิดของเครื่องยนต์ในรอบต่ำ และอัตราทดเกียร์ รวมถึงความสูงใต้ท้องรถและระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล ต่อด้วยการขับขี่บนสภาพเส้นทางที่เป็นพื้นทราย ‘Sand Track’ ในสถานีที่ 7 ด้วยการใช้โหมดทราย (Sand mode) สื่อมวลชนได้สัมผัสถึงระบบความคุมเสถียรภาพการทรงตัว และการกระจายแรงบิดของเครื่องยนต์ที่ทำให้รถผ่านอุปสรรคไปสู่สถานีที่ 8 ลุยทางออฟโรด (Off-Road Maneuvering) โดยใช้โหมดปกติ (Normal mode) พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4H) ทดสอบการควบคุมพวงมาลัย การทรงตัวของรถ และความทรงพลังของเครื่องยนต์ แรงบิดและอัตราทดเกียร์อันชาญฉลาด โชว์ให้เห็นถึงสมรรถนะในการขับขี่ออฟโรดโดยรวมที่ดีขึ้นด้วยมุมเงยที่ 30 องศา (เพิ่มจาก 28.5 องศาในรุ่นก่อนหน้า)

หลังจากเรียนรู้การใช้งานโหมดการขับขี่ออฟโรดในสถานีต่างๆ ณ ฟอร์ด เรนเจอร์ วิลล์ สื่อมวลชนได้เดินทางไปทดสอบการขับขี่แบบออฟโรดกันต่อบนเส้นทางธรรมชาติสุดท้าทายและน่าจดจำ

นอกจากการทดสอบสมรรถนะในการขับขี่แล้ว สื่อมวลชนยังได้ร่วมสัมผัสความอเนกประสงค์ของรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ทั้งการเป็นรถยนต์คู่ใจสำหรับการทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว ด้วยกระบะท้ายที่รองรับการจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบในหลากหลายรูปแบบ (Cargo management system) บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายที่ทำให้การเข้าถึงท้ายกระบะเป็นเรื่องง่าย การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเชื่อมระบบไฟจากช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายเพื่อทำงานช่างหรือจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิสต์ต่างๆ การออกแบบพื้นที่เก็บของใต้ที่นั่งใหม่ เพิ่มพื้นที่เก็บของใต้เบาะหลังเพื่อความเป็นระเบียบ สามารถเก็บสัมภาระของทุกคนในครอบครัวได้โดยที่นั่งยังคงกว้างขวางนั่งสบาย รวมถึงห่วงยึดสัมภาระบนขอบกระบะท้ายที่ออกแบบมาเพื่อให้บรรทุกอุปกรณ์สันทนาการของทุกคนได้เวลาเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟบอร์ดของคุณพ่อ หรือจักรยานของคุณลูก

“กิจกรรมทดสอบขับในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพิสูจน์ถึงความเป็นรถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด สมบุกสมบันที่สุด ตอบสนองการใช้งานได้ดีที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ทีมวิศวกรและนักออกแบบของฟอร์ดทำงานร่วมกับลูกค้าทั่วโลกเพื่อสร้างสรรค์สุดยอดรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ให้เป็นรถคู่ใจที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งการทำงาน การเป็นรถของครอบครัว และเป็นเพื่อนเดินทางในวันพักผ่อน นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเปิดตัว ‘ฟอร์ดพาส’ ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถฟอร์ด เรนเจอร์ของตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการสตาร์ทรถจากระยะไกล ปรับอุณภูมิรถก่อนเข้าสู่ห้องโดยสาร และแจ้งเตือนสถานภาพรถได้ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการเชื่อมต่อการสื่อสารได้ตลอดเวลาเมื่ออยู่บนฟอร์ด เรนเจอร์ ผ่านระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A” นางสาวกมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลาดอาเซียน กล่าว

นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แล้ว ฟอร์ดยังมุ่งมั่นที่จะมอบการดูแลลูกค้าแบบ ‘พร้อมเสมอ (Always-On)’ ด้วยบริการและการดูแลลูกค้าทุกคนเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ด้วยนวัตกรรมด้านบริการใหม่ๆ มากมายที่จะมีการเปิดตัวพร้อมการเริ่มจำหน่ายรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนทริปการทดลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ในครั้งนี้จะออนแอร์ทาง ททบ. 5 ในวันจันทร์ ที่ 23 พฤษภาคมนี้ เวลา 23.00-23.30 น. รับรองว่าน่าตื่นเต้นและจะได้เห็นสมรรถนะที่โดดเด่นอย่างแน่นอน รวมทั้งจะได้เห็นการใช้ทุกโหมดการขับที่ติดตั้งมากับการปรับใช้ในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม..เร้าใจแน่นอน

 

 

ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00-23.30 น.

หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com

ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv

และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV

TagsFord Rangernext gen ford rangerNext-Gen Rangerทดลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่
Previous Article

อีซูซุ รับรางวัลเกียรติยศ “สุดยอดองค์กรแห่งปี” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

Next Article

“งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 44” จัดเต็มพื้นที่ฟิวเจอร์พาร์ค วันนี้–22 พ.ค.นี้

0
Shares
  • 0
  • 0

Related articles More from author

  • ฟอร์ด เรนเจอร์
    Autolike Event

    เตรียมยลโฉม ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ 24 พ.ย.นี้ พร้อมกันทั่วโลก

    November 1, 2021
    By Article writer
  • Autolike EventAutolike New Car

    ฟอร์ด เผยโฉม เรนเจอร์ XL Street Special Edition จำกัด 300 คัน ค่าตัว 682,000 บาท

    July 2, 2021
    By Article writer
  • ฟอร์ด
    Autolike Event

    พี่มีแต่ให้! ฟอร์ด พัฒนาเรนเจอร์เป็นรถพยาบาล มอบให้สาธารณสุขสู้โควิด 10 คัน

    June 24, 2021
    By Article writer
  • Autolike Event

    บททดสอบสุดหฤโหด #NextGenRanger พร้อมเผชิญทุกสถานการณ์

    October 21, 2021
    By Article writer
  • Autolike Event

    ฟอร์ด เรนเจอร์ สุดเจ๋ง คว้า 2 โพเดียม แม้ลงแข่งเป็นครั้งแรกใน ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์

    November 16, 2020
    By Article writer
  • Autolike Event

    ฟอร์ด เตรียมพาลูกค้าสัมผัสประสบการณ์แบบ ‘Live the Ranger Life’ 10-12 มิถุนายนนี้

    June 7, 2022
    By Article writer

Find us on Facebook

logo

“ออโต้ไลค์ทีวี” เว็บไซต์ยานยนต์ สำหรับคนนำสมัย คอนเซ็ปต์ “แค่คลิกไลค์ ใจคุณก็รักรถ”

About us

  • 63 ซอยลาดปลาเค้า 33 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
  • 02-077-7440
  • autoliketv@gmail.com
https://www.youtube.com/watch?v=bjs42vFsmWY
https://www.youtube.com/watch?v=TJq888mFD5U
https://www.youtube.com/watch?v=G_eEiQdiLfk
https://www.youtube.com/watch?v=_86x7XwLR3A
© Copyright AUTOLIKETV TEAM. All rights reserved.