นิสสัน ใจกว้างให้เข้าถึงสิทธิบัตรเทคโนโลยีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ ช่วยสู้โควิด

โรคโควิด 19 เข้ามาทำร้ายชีวิตมนุษย์ต่อเนื่องมาตลอดปีที่ผ่านมา และยังมีทีท่าว่าจะรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดตีกำแพงประเทศไทยแตก ทำให้มีผู้ติดเชื้อไปแล้วหลักพันคน ซึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์เองไม่ได้นิ่งเฉย งัดทุกเทคโนโลยีที่มีเข้ามาให้การช่วยเหลือ
โดยล่าสุดค่ายนิสสันใจกว้างสุดๆ ด้วยการอนุญาตให้เข้าถึงทรัพย์สินทางปัญหาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่พัฒนาโดยนิสสันเอง ซึ่งถือว่าปกติแล้วเรื่องเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่เป็นความลับสุดๆ
โดยทางนิสสันได้อนุญาตให้นำเทคโนโลยีที่มีต้นทุนไม่สูงมากมาใช้เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด 19 ภายใต้เงื่อนไขปฏิญญาการอนุญาตให้เข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อช่วยหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (IP Open Access Declaration Against COVID-19) ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การลงนามในปฏิญญาถือเป็นการประกาศว่า นิสสันจะไม่ยืนยันสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ การออกแบบ หรือลิขสิทธิ์ในการดำเนินงานการต่อสู้กับโรคระบาด
สำหรับใบอนุญาตนี้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่พัฒนาโดยบริษัท ชิโน คอร์ปอเรชั่น (Chino Corp) และบริษัท ไซโก้ เอ็นพีซี คอร์ปอเรชั่น (Seiko NPC Corp) โดยทางบริษัท ชิโน ได้ใช้เทคโนโลยีของนิสสันในการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์วัดอุณหภูมิบนร่างกายแบบไร้การสัมผัสซึ่งสามารถตรวจจับอุณหภูมิร่างกายที่สูงได้อย่างรวดเร็ว
โดย “ไซโก้ เอ็นพีซี” ได้พัฒนาเซ็นเซอร์ภายใต้ใบอนุญาตย่อยของเทคโนโลยีจาก บริษัท ไอเอชไอ แอร์โรว์ สเปซ จำกัด (IHI Aerospace Co., Ltd.) โดยเซ็นเซอร์เหล่านี้ถูกใช้ในอุปกรณ์วัดอุณหภูมิร่างกายแบบไร้การสัมผัสในหลายบริษัท และอุปกรณ์ตรวจวัดถูกนำไปใช้ในสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียน สนามบิน และสถานพยาบาล เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
สำหรับเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิแบบไร้การสัมผัสของนิสสันจะตรวจจับรังสีอินฟราเรดจากวัตถุหรือพื้นที่ และสามารถแสดงภาพ เช่น ภาพการกระจายอุณหภูมิที่มีความละเอียดประมาณ 2,000 พิกเซล และสามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเซ็นเซอร์ที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีทั่วไป
ใครที่อยากรู้ว่านิสสันอนุญาตให้เข้าถึงเทคโนโลยีอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ที่นี่เลย คลิ๊ก
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.00 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV