ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท แรงทะลุฝุ่นคว้าชัย Asia Cross Country Rally 2022
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ส่ง ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สู้ศึกการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2022 บนเส้นทางสุดหฤโหด เริ่มต้นจากประเทศไทย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ข้ามไปสิ้นสุดการแข่งขันที่เมืองเสียมเรียบ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ ทั้งหมด 3 คัน ในรุ่น T1 (รถแข่งแบบครอสคันทรี รุ่นโปรโตไทพ์) และสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ ด้วยรถหมายเลข 105 เข้าอันดับ 1 ขณะที่หมายเลข 118 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5
ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท สามารถสร้างผลงานได้อย่างเร้าใจกับศึกด่านแรก Super Special Stage 1 โดยผลงานในด่านแรก รถแข่ง Mitsubishi Ralliart หมายเลข 105 ที่ขับโดย ชยพล โยธา และ พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ เป็นผู้นำทาง ทะยานเข้าป้ายในอันดับที่ 5 ส่วนหมายเลข 106 ขับโดย ริฟัต ซุงการ์ มี ชูพงศ์ ชัยวรรณ เป็นผู้นำทาง ตามมาเป็นอันดับที่ 6 ส่วนหมายเลข 119 ขับโดย ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล และกิติศักดิ์ กลิ่นจันทร์ ผู้นำทาง อยู่ในอันดับที่ 15
แต่มีเรื่องน่าเสียดายเกิดขึ้น เมื่อหลังจากลงแข่งขัน SS1 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล นักขับหมายเลข 119 ตรวจพบเชื้อโควิด 19 ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ ในทีม ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ จึงทำการแข่งขันต่อ โดยทีมงานใช้มาตรการป้องกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อและดำเนินการแข่งขันต่อไป รถอีก 2 คัน เริ่มทำการแข่งขันต่อใน SS2 ประกอบด้วย รถหมายเลข 105 ขับโดย ชยพล โยธา เริ่มออกสตาร์ทในลำดับที่ 5 และรถหมายเลข 118 ขับโดย ริฟัต ซุงการ์ เริ่มออกสตาร์ทในลำดับที่ 6
การแข่งขัน State ที่ 2 หรือ SS2 ถือเป็นเส้นทางที่ยาวและยากที่สุดของการแข่งขัน ที่ระยะทาง 203.50 กม. เริ่มต้นที่ ครบุรี และสิ้นสุดที่หนองบอน จังหวัดบุรีรัมย์ ความท้าทายที่ผู้ขับขี่ต้องเจอคือหลุมบ่อนับไม่ถ้วนบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ รวมถึงทางโค้งแคบๆ ถนนลาดยาง และจากการสูญเสียรถหนึ่งในสามคันในวันแรก ผู้อำนวยการทีม Hiroshi Masuoka ต้องวางแผนกลยุทธ์ใหม่
ชยพล โยธา และ ริฟัต ซุงการ์
โดยทาง ชยพล รถหมายเลข 105 สามารถช่วยสร้างกำลังใจให้กับทีม ด้วยผลงานที่ดีต่อเนื่อง โดยผลการแข่งจาก SS1 ในวันแรก ชยพลทำได้ดีบนถนนลาดยางและจบในอันดับที่ 5 ขณะที่ SS2 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการแข่งขัน ชยพล รถหมายเลข 105 สามารถแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ที่ checkpoint ที่ 1 และเป็นคนแรกที่เข้าเส้นชัย ณ checkpoint สุดท้าย โดยสามารถขึ้นแซงรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดที่ออกตัวก่อนประเภทรถยนต์ และได้รับตำแหน่งที่ 1 ของ SS2 ด้วยสถิติอย่างเป็นทางการที่ 2:50:18 ดังนั้น ในการแข่งขัน SS3 วันที่ 23 ชยพลจะได้เปรียบเรื่องเวลา 4 นาที 7 วินาที
ขณะที่ ริฟัต รถหมายเลข 118 ซึ่งออกสตาร์ทด้วยอันดับที่ 6 ประสบกับปัญหายางแบนขณะขับบนพื้นที่หินที่จุดตรวจระยะ 15 กม. และขับต่อไปโดยไม่เปลี่ยนยาง และผ่าน checkpoint ที่ 1 ไปได้ด้วยล้อและเบรกที่มีปัญหา ก่อนจะได้รับการแก้ไขซ่อมแซมที่จุดพักรถ และ กลับเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้งโดยไม่มีโช้คอัพหลัง และจบการแข่งขันในอันดับที่ 6 โดยริฟัต กล่าวว่า “แม้ว่ายางล้อและช่วงล่างของรถของผมจะเสียหาย แต่ผมก็ฝ่าฟันไปจนถึงเส้นชัยได้ ด้วยความแข็งแกร่งทนทานของรถกระบะไทรทัน”
ส่วน Special Stage 3 งานนี้ทั้งนักแข่งและทีมงานต้องร่วมกันทำงานสุดพลังแบบไม่มีใครถอนคันเร่ง เพื่อรีดสมรรถนะของรถออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ การแข่งขันเริ่มต้นที่ หนองบอน จ. บุรีรัมย์ ตำแหน่งเดียวกับ SS2 ครอบคลุมระยะทางทั้งหมด 157.45 กม. เส้นทางส่วนใหญ่เป็นดินลูกรังทางตรง ที่ต้องใช้ความเร็วสูงกว่า 100 กม./ชม. ร่วมด้วยทางกรวดและถนนลาดยาง ทำให้นักแข่งต้องขับด้วยความระมัดระวัง
ชยพล รถหมายเลข 105 ที่ครองอันดับ 1 ใน SS2 ขับรถด้วยความมั่นคงตลอดเส้นทาง แม้ว่าจากสภาพเส้นทางที่เป็นทางตรง ทำให้คู่แข่งที่เป็นรถเครื่องยนต์กำลังสูงเกิดข้อได้เปรียบมากกว่า แต่สุดท้าย ชยพล ก็สามารถจบ SS3 ได้เป็นอันดับที่ 7 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 1:49:04 น. และยังคงครองอันดับ 1 เป็นผู้นำกลุ่ม สำหรับการแข่งขันในภาพรวม
ขณะที่ ริฟัต รถหมายเลข 118 ที่เกิดเหตุยางแบนใน SS2 แต่ได้รับการซ่อมแซมให้รถกลับมามีสภาพสมบูรณ์ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยความเชี่ยวชาญและการทำงานอย่างหนักของทีมช่างเทคนิค ทำให้รถกลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ริฟัต ใช้สมาธิในการขับรถอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย ที่อาจขึ้นได้จากอุปสรรคของเส้นทาง และในที่สุด ก็สามารถขึ้นแซงรถคู่แข่งได้สำเร็จ และ จบ SS3 ในอันดับที่ 4 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 1:47:59 น. โดยใช้เวลาห่างจากรถหมายเลข 101 จาก Isuzu D-MAX ที่ได้อันดับ 3 เพียง 2 นาที 41 วินาที ทำให้อันดับโดยรวมของ ริฟัต ตีตื้นขึ้นมา จากอันดับที่ 8 เป็นอันดับที่ 5
มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท (คนกลาง)
มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ให้ความเห็นว่า “สำหรับ SS3 แล้ว ถือเป็นการแข่งขันที่ราบรื่นและมั่นคง ชยพลยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำกลุ่มโดยรวมไว้ได้ ส่วน ริฟัต ที่ล่าช้าไปใน SS2 เนื่องจากยางแบน ก็ได้ตีตื้นขึ้นมา และยังอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะท้าชิงตำแหน่งผู้นำได้ ถือว่าทั้งคู่สามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม และผมแทบจะอดใจรอชมการแข่งขันครั้งต่อไปไม่ไหว”
สำหรับการแข่งขัน SS4 เริ่มที่อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สภาพถนนหลักของการแข่งขัน เป็นถนนลูกรังเรียบๆ กลางสวนยางขนาดใหญ่ นักแข่งออกตัวจากจุดสตาร์ทตามลำดับผลการแข่งขันเมื่อวันก่อน โดยทีมนักแข่งมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ริฟัต รถหมายเลข 118 ออกสตาร์ทในอันดับที่ 4 ชยพล รถหมายเลข 105 ออกสตาร์ทในอันดับที่ 7
โดยการแข่งขัน SS4 แบ่งเป็นสองรอบ รวมระยะทาง 70 กม. ซึ่งประกอบด้วยถนนลูกรังเรียบที่ต้องใช้ความเร็วสูงเป็นส่วนใหญ่ ร่วมด้วยถนนโคลน ลูกรัง และถนนลาดยาง โดยพื้นผิวดินเป็นโคลนเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อคืนก่อน ทำให้เกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ลึกกว่า 50 ซม. ทำให้นักแข่งต้องเผชิญกับอุปสรรคที่หลากหลายในเส้นทางวันนี้
ด้าน ชยพล รถหมายเลข 105 ที่ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้ ด้วยการขับขี่ที่มั่นคงใน SS3 เมื่อวันก่อน ใช้การตัดสินใจที่แม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงแอ่งน้ำขนาดใหญ่และป้องกันความเสียหายต่อรถ และจบอันดับที่ 6 ใน SS4 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 2:00:17 โดยยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเวลาที่ห่างจากอันดับ 2 ของรถหมายเลข 102 ที่ 7 นาที 46 วินาที และห่างจากอันดับ 3 รถหมายเลข 116 อยู่ที่ 9 นาที 54 วินาที
ส่วน ริฟัต รถหมายเลข 118 ที่ค่อยๆ ไต่ระดับและมีอันดับในภาพรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงมุ่งเน้นไปที่การขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถเสียหาย เมื่อถึงเวลาที่ต้องเร่งให้แรงขึ้น เขาก็แสดงการขับขี่ที่ดุดันและจบอันดับที่ 5 ใน SS4 โดยทำเวลาอย่างเป็นทางการไว้ที่ 1:59:43 และขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของการแข่งขันโดยรวม ด้วยเวลาที่ห่างจากอันดับ 3 รถหมายเลข 116 ที่ 3 นาที 49 วินาที
ส่วนการแข่งขัน SS5 ถูกเปลี่ยนในนาทีสุดท้าย โดยจะจัดในส้นทาง 80 กม. แรกของ SS3 ชยพลได้เปรียบด้านเวลาโดยรวมมากกว่าคู่แข่ง 7 นาที ดังนั้นเขาจะโฟกัสไปที่เป้าหมายโดยไม่กดดันจนเกินไป ริฟัต แสดงผลงานได้ดีในวันนี้ และไต่ระดับได้ดีขึ้น
เดิมที SS5 กำหนดให้มีระยะทาง 90 กม. ใกล้กับชายแดนกัมพูชา แต่มีการเปลี่ยนแปลงสนามในนาทีสุดท้าย และจะจัดที่เส้นทาง 80 กม. จากจุดเริ่มต้นของ SS3 โดย ชยพล รถหมายเลข 105 ผู้นำโดยรวมได้เปรียบด้านเวลากว่า 7 นาที และต้องไปให้ถึงเป้าหมายอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ รถหมายเลข108 ที่ตามหลัง ริฟัต รถหมายเลข 118 เพียง 2 วินาที ทำให้คาดว่าคู่แข่งจะต้องเร่งเครื่องอย่างหนักเพื่อแซงหน้าเขาในสเตจ SS5
ชยพล รถหมายเลข 105 ซึ่งยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้ ด้วยระยะห่างของเวลากว่า 7 นาทีจากนักแข่งอันดับที่ 2 บังคับรถอย่างมั่นคงใจเย็น เน้นความปลอดภัย เข้าเส้นชัยด้วยเวลาอย่างเป็นทางการที่ 56 นาที 40 วินาที ที่อันดับ 5 ใน SS5 และยังคงเป็นผู้นำของอันดับโดยรวม โดยมีระยะห่างระหว่างตัวเขากับรถหมายเลข 102 คู่แข่งอันดับ 2 โดยรวม 8 นาที 15 วินาที
ริฟัต รถหมายเลข 118 ที่แม้จะประสบปัญหายางแบนใน SS2 ในวันที่สองของการแข่งขัน แต่ก็สามารถโชว์ความสามารถตีตื้นขึ้นมาจากอันดับที่ 8 มาเป็นอันดับที่ 4 กล่าวว่า “รถไทรทัน มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก เครื่องยนต์ตอบสนองดีมาก ช่วยให้สามารถขับได้ตามต้องการบนถนนขรุขระและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ” โดยริฟัตครองอันดับ 4 ใน SS5 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 56 นาที 15 วินาที และยังคงครองอันดับ 4 ของอันดับโดยรวม
มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท กล่าวว่า “พรุ่งนี้จะเป็นสนามสุดท้ายของการแข่งขันแรลลี่นี้ และแม้ว่าสเตจจะสั้นเพียงไม่ถึง 50 กม. แต่เราคาดว่านักแข่งจะต้องเจอกับพื้นผิวถนนจะขรุขระ มีร่องลึก หลุมบ่อ และหลุมน้ำขนาดใหญ่ ชยพลเป็นผู้นำในวันที่สองและรักษาความเป็นผู้นำด้วยการขับขี่ที่มั่นคง ต้องขอบคุณรถไทรทันที่ขับง่าย ช่วยให้ง่ายต่อการควบคุม ผมคิดว่า พรุ่งนี้รถไทรทันจะยิ่งแสดงศักยภาพที่แท้จริงบนถนนที่ขรุขระ ชยพลซึ่งเป็นผู้นำโดยรวมได้เปรียบคู่แข่ง ด้วยเวลาได้ปรียบมากกว่า 8 นาที และเขาจะต้องเข้าเส้นชัยพร้อมกับไทรทันได้อย่างมั่นคง ในทางกลับกัน ด้วยคู่แข่งที่ตามหลังริฟัต ในอันดับที่ 4 แบบหายใจรดต้นคอ ทำให้โดยรวมแล้ว การแข่งขันในวันพรุ่งนี้จะเป็นการแข่งขันที่ตึงเครียด ในโค้งสุดท้ายก่อนจบการการแข่งขัน”
THE VICTORY OF LEGEND ชัยชนะของ Team MITSUBISHI RALLIART
ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท สร้างตำนานบทใหม่คว้าแชมป์ Asia Cross Country Rally 2022 ได้สำเร็จ!
โดย ชยพล โยธา ในรถแข่ง Triton Rally Car หมายเลข 105 เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ด้วยเวลารวมเร็วที่สุด 8.22.42 ชั่วโมง ในขณะที่ ริฟัต ซุงการ์ ในรถแข่ง Triton Rally Car หมายเลข 118 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5 ด้วยเวลารวม 8.39.56 ชั่วโมง ซึ่งตลอดระยะเวลาการแข่งขัน 6 วัน ระยะทางรวมกว่า 1,400 กิโลเมตร ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ได้ร่วมฝ่าฝันอุปสรรค ทั้งสภาพอากาศที่ปิด สภาพเส้นทางที่ยากลำบากเกินคาดเดา ต้องอาศัยทักษะของนักแข่ง และสมรรถนะรถที่ยอดเยี่ยม ผสานเข้าด้วยกัน เพื่อรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ในกลุ่มผู้นำ จนวันสุดท้ายของการแข่งขัน ที่เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ทุกอย่างเป็นใจและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นี่คือบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของรถแข่ง Triton Rally Car และแรลลี่อาร์ต ตำนานแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก!
ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 22.30-23.00 น.
หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com
ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv
และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV