Autoliketv

Top Menu

  • Home
  • Contact Us

Main Menu

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • Home
  • Contact Us

logo

Header Banner

Autoliketv

  • Autolike Event
  • Autolike Gossip
  • Autolike new model
    • Autolike New Car
    • Autolike New Bike
  • Autolike Ontour
  • Autolike Special
  • AutoLike TV
  • ซูซูกิ ค่ายเล็กแต่ยอดขายใหญ่! ขายทะลุ 25,528 คัน เตรียมเปิดตัวสวิฟท์รุ่นใหม่

  • นิสสัน ส่งมอบความสุขให้เด็กๆ 200 คน ชุมชนศีรษะจระเข้ใหญ่

  • เบนซ์สตาร์แฟลก ยกทัพ AMG 40 คัน จัดโปรราคาพิเศษถึง 31 ม.ค.นี้ เท่านั้น

  • กางเต็นท์กันมั้ย..รถ 5 รุ่นที่เหมาะพานอนนอกบ้านที่สุด

  • ฮุนได ให้ผ่อน 0% นาน 6 เดือน เมื่อเช็ครถที่ศูนย์

Autolike Special
Home›Autolike Special›จีเอ็ม เปิดตัวแพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัล รองรับการใช้งานเทคโนโลยีแห่งอนาคต

จีเอ็ม เปิดตัวแพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัล รองรับการใช้งานเทคโนโลยีแห่งอนาคต

By Article writer
May 26, 2019
Share:

โดยแพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัลที่ว่านี้จะเริ่มใช้ในรถคาดิลแลค ซีที5 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ และทยอยใช้งานในรถยนต์ส่วนใหญ่ของจีเอ็มทั่วโลกภายในปี 2566

มาร์ก รอยส์ ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศเปิดตัวแพลทฟอร์มอิเลคโทรนิครุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับรถยนต์เจนเนอเรชั่นต่อไป รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ ระบบอินโฟเทนเมนท์ และการเชื่อมต่อ รวมถึงพัฒนาการของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ซูเปอร์ ครูส* (Super Cruise) เทคโนโลยีนี้และความก้าวล้ำอื่นๆ คือหัวใจสำคัญในวิสัยทัศน์ของจีเอ็ม ที่มุ่งสู่โลกที่ปราศจากอุบัติเหตุ มลพิษ และความแออัด

ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์และรถยนต์จะมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า ความสามารถในการรับ-ส่งข้อมูลทางไฟฟ้า (bandwidth) และการเชื่อมต่อจะมีความจำเป็นมากขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจว่าฟีเจอร์สำคัญอย่างระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ซูเปอร์ ครูส (Super Cruise) และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุที่ล้ำสมัยจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

ห้องปฏิบัติการทางไฟฟ้า (Electrical Integration Lab) ของจีเอ็ม ในเมืองวอร์เรน รัฐมิชิแกน

มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัลของจีเอ็ม

เปิดตัวโดยการใช้งานครั้งแรกในรถซีดาน คาลิคแลค ซีที5 ปี 2020 ที่เพิ่งเผยโฉมล่าสุด แพลทฟอร์มอิเลคโทรนิครุ่นใหม่จะขึ้นสายการผลิตภายในปีนี้ และจะใช้งานกับรถยนต์ส่วนใหญ่ของจีเอ็มที่จะออกวางจำหน่ายทั่วโลกภายในปี 2566 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้พลังงานระบบอิเลคโทรนิครุ่นใหม่สามารถจัดการประมวลผลข้อมูลได้สูงสุด 4.5 เทราไบต์ต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับโครงสร้างทางไฟฟ้าของจีเอ็มที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยการขยายศักยภาพการอัพเดทซอฟต์แวร์แบบไร้สาย (OTA) ซึ่งเหมือนกับการอัพเดทซอฟท์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟน ระบบนี้จึงรองรับการอัพเกรดการใช้งานได้ตลอดอายุใช้งานของรถยนต์ โครงสร้างใหม่ยังมอบการสื่อสารที่รวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้นทั้งภายในตัวรถยนต์และกับแหล่งรับส่งสัญญาณภายนอก เนื่องจากการเชื่อมต่ออีเธอร์เน็ตที่มีความเร็ว 100 เมกะบิตต่อวินาที 1 กิกะบิตต่อวินาที และ 10 กิกะบิตต่อวินาที

ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์คืออีกหนึ่งเสาหลักสำคัญของโครงสร้างใหม่ ดีเอ็นเอภายในระบบนี้มาพร้อมฟีเจอร์เพื่อการป้องกันเพิ่มเติมในระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สะท้อนถึงการคาดการณ์ความปลอดภัยในอนาคตของบริษัท และ จีเอ็ม เป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์รายแรกๆ ที่สร้างหน่วยงานการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับโลกขึ้นโดยเฉพาะ ประกอบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญภายในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกเจาะเข้าสู่ระบบรถยนต์และข้อมูลของลูกค้า

แพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัลของจีเอ็มช่วยให้พลังงานระบบอิเลคโทรนิครุ่นใหม่สามารถจัดการประมวลผลข้อมูล

ได้สูงสุด 4.5 เทราไบต์ต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับโครงสร้างทางไฟฟ้าของจีเอ็มที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

เมื่อหลายปีที่แล้ว จีเอ็ม ดำเนินโครงการเปิดเผยช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเพื่อให้สามารถทำงานกับกลุ่มการวิจัยได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โครงการนี้เติบโตจนกลายเป็นโครงการค้นหาช่องโหว่ (bug bounty) ที่ทำให้การดำเนินการเพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีเอ็ม มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และจีเอ็ม ยังเป็นประธานกลุ่มออโต้-ไอเอสเอซี (Automotive Information Sharing & Analysis Center) กลุ่มหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชนที่แบ่งปันและวิเคราะห์ข่าวกรองเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งแพลทฟอร์มอิเลคโทรนิคได้รับการพัฒนาขึ้นที่ศูนย์การดำเนินงานของจีเอ็ม ทั่วโลก โดยทีมวิศวกรทางไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์

*ขณะใช้งานระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซูเปอร์ ครูส ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิในการขับขี่รถตลอดเวลาและไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ ท่านสามารถเข้าไปศึกษาดูข้อมูลเพิ่มเติมและถนนไฮเวย์ที่รองรับใช้งานได้ที่ Cadillacsupercruise.com ต้องมีการเปิดใช้ออนสตาร์ ไวไฟฮ็อตสปอต ระบบไฟฟ้าที่ใช้งานได้ สัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณจีพีเอส

 

 

 

ติดตามข่าวสารด้านยานยนต์ “ออโต้ไลค์ ทีวี” ได้ทาง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.00 น.

หรือได้ทางออนไลน์ www.autoliketv.com 

ทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/Autoliketv

และได้ทาง www.youtube.com/AutoLikeTV

Facebook Comments
Tagsจีเอ็มรถยนต์ดิจิทัล
Previous Article

ร.ย.ส.ท. เตรียมจัดศึกทางเรียบมาราธอน 6 ชั่วโมง

Next Article

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เติบโตร้อยละ 14.7 ยอดขายรวม 725,000 ล้านบาท

0
Shares
  • 0
  • 0

Related articles More from author

  • Autolike Event

    จีเอ็ม พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย ผลิตขุมพลังดูราแม็กซ์ครบ 500,000 เครื่องยนต์

    August 15, 2019
    By Article writer
  • Autolike Special

    ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กับเทคโนโลยีสุดแกร่งดีเซล Bi-turbo

    November 26, 2018
    By Article writer
  • Autolike Special

    บทเรียนราคาแพง แซงผิดชีวิตเปลี่ยน!!

    May 4, 2020
    By Article writer
  • Autolike Special

    นับถอยหลัง..โตเกียวมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 งานที่มากกว่านวัตกรรมยานยนต์

    July 31, 2019
    By Article writer
  • Autolike Special

    เจาะสเปค Nissan Kicks e-Power รถไฟฟ้าทางเลือกใหม่..ไม่ต้องชาร์จไฟ

    May 16, 2020
    By Article writer
  • Autolike Special

    เปรียบเทียบ 3 รุ่นเด่น! สำหรับคนเมือง CX-3, HR-V, C-HR

    July 30, 2018
    By Article writer

Find us on Facebook

logo

“ออโต้ไลค์ทีวี” เว็บไซต์ยานยนต์ สำหรับคนนำสมัย คอนเซ็ปต์ “แค่คลิกไลค์ ใจคุณก็รักรถ”

About us

  • 63 ซอยลาดปลาเค้า 33 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
  • 02-077-7440
  • autoliketv@gmail.com
https://www.youtube.com/watch?v=SSqAWgla-3o
https://www.youtube.com/watch?v=vORAW8_5fbY
https://www.youtube.com/watch?v=Vc9BustjqLA
https://www.youtube.com/watch?v=hEmirJo7aJs
© Copyright AUTOLIKETV TEAM. All rights reserved.